Please wait...

E-catalogue
สายด่วน
0
Loading...
0
คุณไม่มีรายการสินค้าในตะกร้าของคุณ
0 สินค้าในตะกร้า
ยอดรวมรถเข็น : 0
×
ส่งต่อความใส่ใจผ่านสวัสดิการดีๆ ที่บริษัทมอบให้

ส่งต่อความใส่ใจผ่านสวัสดิการดีๆ ที่บริษัทมอบให้ การดูแลเอาใจใส่คือมาตรฐานและความปลอดภัยของสวัสดิการที่ดี พนักงานถือเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ การดูแลและการเอาใจใส่ของบริษัทที่มีต่อพนักงานจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญของบริษัทที่จะช่วยทำให้พนักงานมีความสุขทั้งร่างกายและจิตใจ ส่งผลให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีศักยภาพในการทำงาน การดูแลพนักงานของบริษัทสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากปัจจัยพื้นฐานที่พนักงานควรจะต้องได้รับ คือ อาหาร การรักษาพยาบาล และความปลอดภัย สวัสดิการก็คือปัจจัยพื้นฐานที่ทางบริษัทมอบให้แก่พนักงานเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนให้กับพนักงานที่ยังคงทำงานให้บริษัทอย่างมีศักยภาพและยิ่งพนักงานมีแรงบันดาลใจในการทำงานเท่าไรยิ่งเป็นสิ่งสะท้อนถึงการดูแลเอาใจใส่ขององค์กรที่มีต่อพนักงานว่าดีแค่ไหน สวัสดิการของพนักงานที่บริษัทจะจัดให้โดยส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย โรงอาหารสำหรับพนักงานเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของพนักงาน ห้องพยาบาลเพื่อดูแลอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น และความปลอดภัยในการปฏิบัติงานภายในอาคารสถานที่ของบริษัท ซึ่งสวัสดิการดังกล่าวนอกจากที่บริษัทจะต้องใช้งบประมาณของบริษัทเพื่อจัดตั้งขึ้นมาแล้วบริษัทยังต้องทำให้สวัสดิการดังกล่าวมีมาตรฐานให้พนักงานได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดตามมาตรฐานที่ควรจะได้รับ มาตรฐานความปลอดภัยของสวัสดิการที่พนักงานควรได้รับ โรงอาหารพนักงาน เป็นสวัสดิการที่พนักงานหลายๆ คนอยากได้รับ เพราะการมีโรงอาหารช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของค่าอาหารประจำวันและค่ารถรวมไปถึงการลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเพราะบางครั้งต้องเดินทางเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันนอกบริษัทเพราะบริษัทอยู่ไกลจากแหล่งชุมชน ซึ่งในแง่ของบริษัทเองก็ได้ประโยชน์ดีๆ จากสวัสดิการโรงอาหารเพราะพนักงานสามารถเข้างานได้ตรงเวลามากขึ้นและยังช่วยลดอัตราการลาออกของพนักงานเพราะมีสวัสดิการที่ถูกใจเป็นแรงจูงใจในการทำงานการจัดตั้งโรงอาหารสำหรับพนักงานตามมาตรฐานสุขาภิบาลสำหรับโรงอาหารเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการดูแลเอาใจใส่พนักงานของบริษัทที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักเพราะหากละเลยไปอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคในอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงอาหารและอาหารซึ่งนำไปสู่การเจ็บป่วยส่งผลถึงประสิทธิภาพการทำงานและสุขภาพของพนักงานโดยตรง มาตรฐานสุขาภิบาลอาหารสำหรับโรงอาหาร ความปลอดภัยของปากท้องพนักงาน โรงอาหาร ต้องสะอาด มีอากาศถ่ายเทดี อุปกรณ์ที่ใช้ในการนั่งรับประทานเช่น โต๊ะสแตนเลส เก้าอี้พลาสติก ควรแข็งแรงและสะอาด จัดเป็นระเบียบให้พร้อมใช้งาน ในยุคของโควิด 19 ควรติดตั้งเครื่องจ่ายแอลกฮอล์ ประเภทเจลแอลกฮอล์ หรือสเปรย์แอลกฮอล์ ที่บริเวณด้านในของหน้าประตูโรงอาหาร เพื่อช่วยลดเชื้อโรคจากการสัมผัสอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันในโรงอาหาร ห้องครัวของโรงอาหาร ต้องสะอาด และอากาศถ่ายเทดี ติดตั้งเครื่องดูดควันเพื่อให้ระบายกลิ่นและควันจากการปรุงอาหาร ผนังพื้นที่บริเวณเตาไฟต้องทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ไม่ปรุงอาหารบนพื้น และควรเตรียมอาหารหรือปรุงอาหารบนโต๊ะสแตนเลสที่สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. พื้นของห้องครัวควรทำจากวัสดุถาวรที่แข็ง พื้นผิวเรียบ และอยู่ในสภาพที่ดี อาหารพร้อมทั้งเครื่องดื่มที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ควรปิดสนิทต้องมีการระบุเลขสารบบอาหารและเครื่องหมายอย. บนฉลาก และควรถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบบนความสูงจากพื้นอย่างน้อย 30 ซม. บนชั้นเก็บของ อาหารสดควรจัดเก็บเป็นสัดส่วน เช่น เนื้อสัตว์ ผัก โดยที่เนื้อสัตว์ดิบควรเก็บในอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส และก่อนนำมาปรุงอาหารควรล้างให้สะอาด เขียงและมีดที่ใช้ในการทำอาหารควรอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และต้องแยกการใช้งานระหว่างเนื้อสัตว์ดิบ เนื้อสัตว์สุก ผักและผลไม้ อาหารที่ปรุงเสร็จสำหรับใช้รับประทานที่โรงอาหารต้องเก็บในภาชนะที่มีการปกปิดอย่างมิดชิด และควรมีตู้ที่ด้านหน้ามีกระจกสำหรับปกปิดตอนตักอาหารและควรวางบนโต๊ะสแตนเลสสูงกว่าพื้นอย่างน้อย 60 ซม การจัดเตรียมน้ำดื่ม เครื่องดื่ม น้ำแข็ง ที่ใช้ในโรงอาหารควรมีความสะอาด และใส่ในภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรค มีฝาปิด ถ้าน้ำเป็นลักษณะคูลเลอร์หรือแทงค์น้ำควรมีก๊อกหรือทางเดินเทรินน้ำ แต่ถ้าหากใส่ภาชนะควรมีที่ตักที่มีด้าม รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการตักน้ำแข็งด้วย และควรวางบนโต๊ะสแตนเลสสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 ซม. และในถังแช่น้ำแข็งต้องไม่มีสิ่งของอย่างอื่นแช่รวมไว้ ภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานในโรงอาหาร เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม ฯลฯ ต้องทำจากวัสดุที่ไม่เป็นอันตราย เช่น สแตนเลส กระเบื้องเคลือบขาว ภาชนะที่ใส่เครื่องปรุง เช่น พริก น้ำปลา ควรทำจากแก้วหรือกระเบื้องเคลือบขาว ต้องมีฝาปิดและมีช้อนตักโดยช้อนตักควรทำจากสแตนเลส หรือ กระเบื้องเคลือบขาว หากมีเครื่องปรุงอื่นๆ ควรอยู่ในภาชนะที่มีฝาปิดและทำความสะอาดง่าย การทำความสะอาดภาชนะ ควรทำการเทเศษอาหารออกจากภาชนะโดยสามารถใช้รถเข็นเก็บจาน และจัดเตรียมถังขยะเพื่อรองรับเศษอาหาร หรือจะใช้รถเข็นเก็บจานที่มีที่เก็บเศษอาหารติดมากับรถเข็นเพื่อเพิ่มความสะดวกและถูกสุขลักษณะมากขึ้น จึงนำภาชนะไปล้างโดยอ่างล้างภาชนะควรมีอย่างน้อย 2 อ่างและควรระบายน้ำได้เป็นอย่างดี การล้างภาชนะควรล้างด้วยน้ำยาล้างภาชนะโดยเฉพาะควรล้างน้ำสะอาด 2 ครั้ง หรือล้างด้วยน้ำไหล เมื่อล้างเสร็จควรคว่ำภาชนะทั้งหมดในตะแกรง หรือเก็บในภาชนะและสถานที่ที่มิดชิด และสะอาด โดยที่ช้อน ส้อม ตะเกียบ วางตั้งเอาด้ามขึ้นอยู่ในภาชนะที่โปร่ง สะอาดและมีการปกปิด โดยทั้งหมดควรวางบนโต๊ะสแตนเลสที่สูงกว่าพื้นอย่างน้อย 60 ซม. การจัดเก็บขยะและน้ำสกปรกในโรงอาหาร ถังขยะที่ใช้ควรอยู่ในสภาพที่ดีไม่รั่วซึม และมีฝาปิดและควรมีถังขยะแยกประเภท เช่น ขยะเปียก ขยะแห้ง ท่อระบายหรือรางระบายน้ำต้องอยู่ในสภาพดี ไม่แตกร้าว และควรมีบ่อตักน้ำเศษอาหารและดักไขมันก่อนระบายน้ำเสียทิ้งโดยที่ต้องไม่ระบายน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะโดยตรง ห้องน้ำและห้องส้วมที่ใช้ในโรงอาหาร ต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น น้ำเพียงพอต่อการใช้งาน อ่างล้างมืออยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และควรมีถังขยะเพื่อใช้ทิ้งขยะที่ใช้ในห้องน้ำโดยเฉพาะ และในยุคโควิด 19 ควรติดตั้ง เครื่องจ่ายแอลกฮอล์ ประเภทเจลแอลกฮอล์ หรือสเปรย์แอลกฮอล์ ไว้หน้าห้องเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจติดอยู่ตามร่างกาย และห้องส้วมต้องแยกเป็นสัดส่วนไม่เชื่อมต่อไปยังห้องเตรียมและปรุงอาหาร ผู้ปรุงอาหารและเสิร์ฟอาหารในโรงอาหาร ควรมีสุขภาพดี ไม่มีโรคติดต่อ และโรคผิวหนัง และต้องมีหลักฐานในการตรวจสุขภาพเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ ต้องมีสุขนิสัยที่ดี เช่น เล็บสั้น ไม่หยิบจับอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วโดยตรง ไม่สูบบุหรี่ขญะปฏิบัติงาน เครื่องแต่งกายของผู้ปรุงอาหารและเสิร์ฟอาหารในโรงอาหาร ต้องสะอาด เสื้อต้องมีแขน และผูกผ้ากันเปื้อน พร้อมสวมหมวกหรือคลุมผมตลอดเวลาในการทำอาหาร รวมไปถึงช่วงเวลาในการจัดเตรียมเครื่องปรุงและวัตถุดิบ ห้องพยาบาลเป็นสวัสดิการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยที่บริษัทจะต้องคำนึงถึงเพราะเป็นการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินภายในโรงงาน รวมไปถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับด้านสุขภาพ เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยงที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร ที่สูง หรือมีสารเคมี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมถึงแม้จะมีอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันอันตรายจากการทำงาน เช่น หมวกนิรภัย, รองเท้าเซฟตี้, หน้ากากป้องกันสารเคมี, ชุดป้องกันสารเคมี แต่อุปกรณ์ดังกล่าวแค่ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากหนักให้เบาขึ้น จึงจำเป็นต้องมีห้องพยาบาลเพื่อคอยช่วยเหลือและลดอาการบาดเจ็บก่อนนำส่งโรงพยาบาล ห้องพยาบาลเป็นสวัสดิการที่กฎหมายบังคับใช้เพื่อสุขภาพและอนามัยของพนักงานโดยเฉพาะ โดยมีการกำหนดรายละเอียดของเวชภัณฑ์ ยา และอุปกรณ์ของห้องพยาบาลเพื่อให้ได้มาตรฐานต่อการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในห้องพยาบาล กรรไกร เข็มกลัด ที่ป้ายยา ปากคีบปลายทู่ ผ้าสามเหลี่ยม พลาสเตอร์ปิดแผล สายยางรัดห้ามเลือด ขี้ผึ้งแก้ปวดบวม น้ำยาโพวิโดน-ไอโอดีน ชนิดฟอกแผล ยาแก้ผดผื่นที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อ ยาทาแก้ผดผื่นคัน ยาบรรเทาปวดลดไข้ ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร แอลกอฮอล์เช็ดแผล ถ้วยล้างตา ยาหยอดตา แก้วยาน้ำ และแก้วยาเม็ด ถ้วยน้ำ เครื่องวัดอุณหภูมิ ผ้าพันยืด สำลี ผ้าก๊อต ผ้าพันแผล และผ้ายา หลอดหยดยา ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือโพวิโดน-ไอโอดีน ผงน้ำตาลเกลือแร่ ยาแก้แพ้ ยาธาตุน้ำแดง ยารักษาแผลน้ำร้อนลวก เหล้าแอมโมเนีย ขี้ผึ้งป้ายตา น้ำกรดบอริคล้างตา อุปกรณ์ที่ห้องพยาบาลควรต้องมี เตียงพักคนไข้ ยานพาหนะซึ่งจะใช้นำส่งพนักงานไปโรงพยาบาล (เมื่อมีพนักงาน 1,000 คนขึ้นไป) เครื่องจ่ายแอลกอฮอล์ แบบหรือเจลแอลกฮอล์ หรือ แบบสเปรย์แอลกฮอล์ ตามมาตรการป้องกันโควิด 19 ถังขยะ เพื่อใส่ขยะติดเชื้อที่เกิดจากการรักษาพยาบาล และควรแยกใส่ในถังขยะอันตราย หรือถังขยะที่เป็นแบบเหยียบ นอกจากอุปกรณ์แล้วกฎหมายยังกำหนดให้มีพยาบาลเทคนิค และแพทย์ปัจจุบันประจำห้องพยาบาลซึ่งจำนวนของพยาบาลและแพทย์ที่ต้องประจำที่ห้องพยาบาลขึ้นอยู่กับจำนวนของพนักงานของบริษัทตามที่กฎหมายกำหนดไว้ อาคารสถานที่ ความปลอดภัยของอาคารสถานที่เป็นความปลอดภัยที่สำคัญเพราะหากอยู่ในภาวะที่อันตรายจะทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างได้เพราะอาคารสถานที่โดยส่วนใหญ่เป็นสถานที่ทำงานที่มีความพลุกพล่านจากพนักงานหรือผู้ที่มาติดต่อ ซึ่งสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ทั้งแบบเบาจนถึงหนัก หรือเรื่องที่ไม่คาดคิดได้ง่าย ดังนั้นฝ่ายบริหารจัดการอาคารสถานที่จึงต้องมีอุปกรณ์ที่จะช่วยป้องกันหรือบรรเทาเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นต่อพนักงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันภัยภายในอาคารสถานที่ ถังดับเพลิง เป็นอุปกรณ์คุ้นเคยที่มักเห็นตามทางเดินในอาคาร เป็นอุปกรณ์ที่อาคารสถานที่ต้องมีตาม พ.ร.บ ควบคุมอาคารกำหนดไว้ โดยให้มี 1 เครื่องต่อพื้นที่อาคารสถานที่ไม่เกิน 200 ตารางเมตรแต่ไม่น้อยกว่าชั้นละ 2 เครื่องและถังดับเพลิงควรได้เครื่องหมายมาตรฐานตามที่คณะกรรมการควบคุมอาคารให้การรับรองไว้ ไฟฉุกเฉิน เป็นระบบให้แสงสว่างเมื่อไฟฟ้าปกติดับจากเพลิงไหม้ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอาคารสถานที่เห็นและจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน เป็นป้ายที่แสดงสัญลักษณ์ที่ชี้ทางออกไปยังทางออกฉุกเฉินเพื่อให้หลบหนีออกจากอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ บันไดอลูมิเนียม ใช้ในการปีนเพื่อดูความผิดปกติหรือซ่อมแซมจุดที่มีปัญหาภายในอาคาร เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ ความผิดปกติของเพดาน เช่นมีน้ำรั่วซึม ซึ่งอาจก่อปัญหาที่เป็นอัตรายได้ในอนาคต และเพื่อลดความเสี่ยงอัตรายที่เกิดจากการตกจากที่สูง ซึ่งบันไดอลูมิเนียมยังมีปลอดภัยจากการใช้งานเพราะสามารถพับเก็บให้มีขนาดเล็กจนสามารถถือได้ เครื่องจ่ายแอลกฮอล์ เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยในปัจจุบันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคที่ทุกอาคารสถานที่ต้องติดตั้ง ซึ่งมีทั้งแบบเจลแอลกฮอล์ และสเปรย์แอลกฮอล์ อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันภัยภายนอกอาคารสถานที่ กรวยจราจร ใช้เพื่อสร้างอาณาเขต เช่น กำหนดจุดจอดรถ หรือตั้งไว้เป็นสัญลักษณ์แจ้งเตือนอันตรายที่อยู่จุดที่ตั้งเพื่อไม่ให้เข้ามาใกล้บริเวณดังกล่าว เสาจราจร เป็นอุปกรณ์แบ่งเขตถนน หรือพื้นที่ห้ามสัญจร เป็นอุปกรณ์ที่ใช้กำหนดจุดการใช้งาน แผงกั้นจราจร ใช้สร้างพื้นที่กั้นอาณาเขต เช่น พื้นที่อันตราย และยังเป็นสัญญาณฉุกเฉินที่เตือนให้ระวังหรือไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าว หรือใช้แบ่งช่องทางการจราจรในอาคารสถานที่ ยางปีนฟุตบาท เป็นอุปกรณ์ที่ทำจากยางจึงมีความแข็งแรงและช่วยลดปัญหาการปีนขอบยางไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ยางป้องกันสายเคเบิ้ล ช่วยป้องกันไม้ให้รถทับสายไฟ ทำให้สายไฟขาดและไฟฟ้ารั่วได้ ถังขยะแบบแยกประเภท ที่ใช้แยกขยะเปียก ขยะแห้ง หรือขยะอันตราย ทำให้เกิดการจัดเก็บที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดจากขยะ โดยเฉพาะจากขยะอันตราย สวัสดิการพื้นฐานที่ดีและมีมาตรฐานที่ทางบริษัทจัดให้แก่พนักงานนั้นถือเป็นประโยชน์ของพนักงานที่ควรได้รับ นอกจากสวัสดิการที่ดีแล้วอุปกรณ์ที่ดีมีมาตรฐานที่ได้ถูกเลือกให้นำมาใช้งานจะส่งผลต่อความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจของพนักงาน ทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานและเพิ่มศักยภาพของตนเอง ทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพและเป็นสะพานที่จะช่วยสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทในที่สุด หากมองหาอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและครบวงจรติดต่อได้ที่ JenStore by Jenbunjerd ผู้จำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจต่างๆ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย และอุปกรณ์ปฐมพยาบาล เช่น จาน,ช้อนส้อม, ถาดอาหาร, แก้วน้ำ, โต๊ะสแตนเลส, ถาดวาง, เก้าอี้พลาสติก, ลังคว่ำแก้ว, อ่างอาหาร, รถเข็นเก็บจานสแตนเลสพร้อมเศษอาหาร, ถังดับเพลิง, กรวยจราจร, บันไดอลูมิเนียม, พลาสเตอร์ติดแผล, ตู้เก็บยา, สำลี,ผ้าก๊อซ, เครื่องวัดอุณหภูมิ, เจลแอลกฮอล์, สเปรย์แอลกฮอล์, ถังขยะ เป็นต้น ที่สามารถไว้วางใจให้เราแนะนำสินค้าที่มีประสิทธิภาพและรองรับถึงความต้องการของคุณ ที่จะไว้ใจได้ว่าทาง Jenstore หาสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของคุณให้มีศักยภาพสูงสุด รวมไปถึงบริการหลังการขายที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
5 เทคนิคง่าย ๆ ในการจัดการคลังสินค้าที่ได้ผลจริง!

5 เทคนิคง่าย ๆ ในการจัดการคลังสินค้าที่ได้ผลจริง!รถยกไฟฟ้า, รถลากพาเลท ตัวช่วยที่เพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้าได้จริงคลังสินค้าเปรียบเสมือนขุมสมบัติของธุรกิจเพราะคลังสินค้าเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับจัดเก็บสินค้าที่ผลิตและยังเป็นสถานที่ในการจัดส่งสินค้าไปยังปลายทาง ภายในคลังสินค้าจึงมีสินค้าเป็นจำนวนมาก และมีหลากหลายประเภท ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้เพื่อจัดเก็บหรือขนย้ายสินค้า เช่น รถลากพาเลท, รถยกไฟฟ้า, รถเข็น, พาเลทพลาสติก, กล่องพลาสติกและลังพลาสติก ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะถูกใช้งานอยู่ภายในคลังสินค้าเพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการจัดการคลังสินค้าช่วยให้การจัดการคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นภายในคลังสินค้าจึงต้องมีการบริหารและจัดการพื้นที่ในคลังสินค้าให้ถูกใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด 5 วิธีจัดการคลังสินค้าที่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ1. การวางแผนผังในคลังสินค้าพื้นที่ในคลังสินค้าทุกตารางเมตรมีมูลค่าต่อยอดขายของธุรกิจดังนั้นพื้นที่ในคลังสินค้าจึงควรมีการออกแบบแผนผังเพื่อกำหนดพื้นที่แต่ละส่วนให้ใช้งานได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด สินค้าถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัย และมีความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในพื้นที่ โดยเฉพาะเครื่องมือที่ต้องใช้ในการเคลื่อนย้ายหรือยกสินค้า เช่น รถลากพาเลท, รถยกไฟฟ้า หรือรถเข็น ซึ่งในแผนผังควรมีการกำหนดพื้นที่ในการเข้าออกของอาคารสินค้า, พื้นที่การรับสินค้า, พื้นที่การจัดเก็บสินค้า, พื้นที่การควบคุมการปฏิบัติการ, พื้นที่การบรรจุหีบห่อสินค้า, พื้นที่สำนักงาน และพื้นที่ในการจัดส่งสินค้า ซึ่งเมื่อกำหนดพื้นที่ได้แล้วควรต้องเว้นช่องว่างเพื่อใช้เป็นเส้นทางการเดินทางในคลังสินค้าสำหรับพนักงาน, รถลากพาเลท, รถยกไฟฟ้า, รถเข็น หรือรถบรรทุกสินค้า การออกแบบแผนผังคลังสินค้าจะช่วยให้การหมุนเวียนของสินค้ามีความรวดเร็วและคล่องตัว อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเสียหายหรือสูญหายของสินค้า ทำให้การทำงานในคลังสินค้ามีประสิทธิภาพซึ่งส่งผลต่อการธุรกิจที่สามารถเพิ่มรอบการผลิตได้มากยิ่งขึ้นทำให้ธุรกิจมีโอกาสในการสร้างผลกำไรและเติบโตได้ในอนาคต 2. การจัดหมวดหมู่และประเภทของสินค้า สินค้าที่อยู่ในคลังสินค้ามีจำนวนและปริมาณมากหากไม่จัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย หรือแยกเป็นประเภทของหมวดหมู่สินค้าอาจทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน อาจก่อให้เกิดสินค้าสูญหาย หรือเสียเวลาในการค้นหาทำให้เกิดความสูญเปล่าที่ไม่จำเป็น ดังนั้นควรแยกหมวดหมู่ของสินค้าควรตั้งเป็นรหัสให้สั้นกระชับ และจดจำได้ง่าย โดยใช้สัญลักษณ์แทนรายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อสินค้า สี ขนาด หรือตำแหน่ง ควรติดป้ายกำกับที่ชั้นวางสินค้า, กล่องพลาสติก หรือลังพลาสติกที่บรรจุสินค้าเพื่อจะได้ง่ายในการค้นหา เมื่อแยกหมวดหมู่ของสินค้าแล้วการจัดเรียงสินค้าบนชั้นวางสินค้าหรือคลังสินค้าบางแห่งอาจเรียงสินค้าบนพาเลทพลาสติกเพื่อให้พร้อมในการเคลื่อนย้ายของรถลากพาเลท หรือรถยกไฟฟ้า วิธีการจัดเรียงสินค้าควรจัดเรียงจากสินค้าที่มีมูลค่าสูงและสร้างกำไรได้มากให้อยู่ในพื้นที่ที่ง่ายต่อการขนย้ายแต่ปลอดภัย เช่น ใกล้จุดขนส่ง, จุดแพ็คสินค้า ส่วนสินค้าที่มีความต้องการมากแต่มีกำไรน้อยกว่าสินค้ากลุ่มแรกให้อยู่ในพื้นที่ถัดลงมา สินค้าที่ขายไม่ได้มากกำไรน้อยหรือสินค้าค้างสต็อคให้อยู่ในพื้นที่ในสุดเมื่อนับจากจุดขนส่ง หรือจุดแพ็คสินค้า การจัดเรียงสินค้าลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้การเคลื่อนย้ายสินค้ามีความรวดเร็วและไม่เกิดความผิดพลาดจากการหยิบสินค้าผิดจนอาจทำให้เกิดความเสียหายและอาจสร้างความไม่พึงพอใจกับลูกค้าได้ 3. จัดการอบรมพนักงาน เป็นการเพิ่มความรู้ในการจัดการคลังสินค้าให้กับพนักงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำงาน เช่น วิธีการใช้รถยกไฟฟ้า หรือข้อควรระวัง การเลือกลังพลาสติกหรือกล่องพลาสติกเพื่อใช้ในการจัดเก็บสินค้าแบบไหนเหมาะสมกับสินค้าประเภทไหน การติดป้ายกำกับสินค้า หรือการเรียนรู้เรื่องรหัสสินค้ารวมไปถึงการลงรหัสสินค้าในคอมพิวเตอร์รายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้การจัดการคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น และหากพนักงานเรียนรู้ระบบในการจัดการคลังสินค้าทั้งในภาพรวมและความรู้เฉพาะแต่ละหน่วยงานจะยิ่งช่วยให้การทำงานระหว่างหน่วยงานมีความคล่องตัว โดยเฉพาะพนักงานใหม่ที่ต้องเรียนรู้ระบบในการทำงานรวมไปถึงวิธีการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและมีความปลอดภัยจากการทำงาน เช่น รถยกไฟฟ้า หรือรถลากพาเลท ที่ต้องใช้เครื่องมือให้ถูกต้องและปฏิบัติงานตามมาตรการความปลอดภัยที่กำหนด เช่น ใส่หมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อต้องใช้งานรถยกไฟฟ้าเพื่อลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน เป็นต้น 4. อุปกรณ์และเครื่องมือต้องมีมาตรฐานเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเพราะหากอุปกรณ์และเครื่องมือไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ และอาจทำให้สินค้าได้รับความเสียหาย เกิดการล่าช้าในการจัดส่งทำให้เกิดปัญหาในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะ รถยกไฟฟ้า, รถลากพาเลท, รถเข็น รวมไปถึงชั้นวางสินค้า เพราะเป็นอุปกรณ์และเครื่องมือที่ต้องรองรับน้ำหนักของสินค้า มาตรฐานการผลิตและวัสดุที่ใช้ในการผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวต้องมีมาตรฐาน แข็งแรง และทนทานต่อการใช้งานได้โดยเฉพาะรถยกไฟฟ้า, รถลากพาเลท ต้องออกแบบมาเพื่อให้รองรับกับการใช้งานที่มีมนุษย์ควบคุมต้องยึดความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นหลัก รถเข็นก็ควรเลือกใช้ให้ถูกกับประเภทของงาน เช่น ทำงานในพื้นที่ที่มีสารเคมี น้ำ หรือน้ำมัน ก็ควรเลือกใช้รถเข็นทำจากวัสดุที่มีความทนทานต่อปัจจัยดังกล่าว เช่น รถเข็นพื้นพลาสติกที่ทนทานต่อสารเคมี กรด ด่าง และความชื้น ชั้นวางสินค้าก็ต้องผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงเช่นเหล็ก หรือเหล็กชุบโครเมียม มีคานยึดที่แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักได้ และควรระบุน้ำหนักที่สามารถรองรับได้ที่ชั้นวางหรือแจ้งเป็นข้อมูลให้พนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบเพื่อจะได้ไม่วางสินค้าที่มีน้ำหนักมากเกินไปจนชั้นวางสินค้าหักหรือถล่มลงทำให้เกิดความเสียหายได้ 5. ตรวจสอบและติดตามการจัดการคลังสินค้าอย่างสม่ำเสมอเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากเพราะหากไม่มีการตรวจสอบเพื่อเช็คความคืบหน้าในระบบการจัดการคลังสินค้าอาจทำให้เกิดปัญหาจนยากที่จะแก้ไขได้ การติดตามการจัดการคลังสินค้าจะทำให้คลังสินค้ามีความเป็นระเบียบ ลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด เช่น รหัสสินค้าหรือสินค้าตรงกันหรือไม่ สินค้ารหัสนี้ได้จัดส่งตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งซื้อไว้ นอกเหนือจากนั้นการตรวจเช็คความสมบูรณ์และความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บสินค้าก็จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก หรือชั้นวางสินค้า มีการชำรุด หรือเสื่อมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการตรวจสอบในการจัดการสินค้าจะช่วยให้การจัดส่งสินค้าถึงปลายทางได้เร็วมากขึ้น ช่วยให้ฝ่ายการผลิตวางแผนรอบในการผลิตสินค้าและสั่งซื้อวัตถุดิบได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นการจัดการคลังสินค้าแค่ใช้หลักการหรือเทคนิคง่าย ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานที่ต้องการให้คลังสินค้ามีการหมุนเวียนสินค้าที่สอดคล้องกับรอบการผลิตและรอบการจัดส่งเพื่อให้สินค้าผลิตและจัดส่งได้ตรงตามกำหนดเวลาที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งนอกจากหลักการและเทคนิคดังกล่าวแล้ว การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานไม่ว่าจะเป็นรถยกไฟฟ้าที่ใช้สำหรับในการยก-ย้ายสินค้าเพื่อจัดเก็บสินค้าบนชั้นวางสินค้าหรือยกไปไว้ในรถเพื่อจัดส่ง รถลากพาเลทเพื่อเคลื่อนย้ายพาเลทสินค้าไปยังจุดต่าง ๆ ที่ต้องการ ชั้นวางสินค้า กล่องพลาสติก ลังพลาสติก เพื่อใช้ในการจัดเรียงสินค้า จัดเก็บสินค้าให้เป็นระเบียบและปลอดภัย และพาเลทพลาสติกเพื่อใช้เป็นฐานในการเรียงสินค้าหรือเคลื่อนย้ายสินค้า อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้การทำงานในคลังสินค้ามีความสะดวก รวดเร็ว และทุ่นแรงในการทำงาน สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในคลังสินค้าส่งผลให้การดำเนินงานในคลังสินค้ามีทั้งประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลที่สร้างผลกำไรให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี Jenstore by Jenbunjerd เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในคลังสินค้าที่ได้มาตรฐานจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ อุปกรณ์เคลื่อนย้าย เช่น รถยกไฟฟ้า, รถลากพาเลท, รถเข็น, โต๊ะยกปรับระดับ อุปกรณ์ในการจัดเก็บ เช่น ชั้นวางสินค้า, ชั้นวางเอนกประสงค์, กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ถังพลาสติก, พาเลทพลาสติก อุปกรณ์ในการหีบห่อและบรรจุ เช่น ฟิล์มยืดพันพาเลท, พลาสติกกันกระแทก, โต๊ะแพ็คสินค้า เป็นต้น โดยมีทีมงานให้คำปรึกษาพร้อมบริการหลังการขายที่เอาใจใส่ทุกความต้องการของลูกค้า ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected]บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
E-commerce ช่องทางธุรกิจยอดนิยมที่อุตสาหกรรมไหนๆ ก็ต้องมี

E-commerce ช่องทางธุรกิจยอดนิยมที่อุตสาหกรรมไหนๆ ก็ต้องมี ระบบคลังสินค้าและการแพ็คกิ้งสินค้า อาวุธลับความสำเร็จของ E-commerce คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจในปัจจุบันได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็น E-commerce มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในตลาดดิจิทัล ธุรกิจแบบ E-commerce เกิดขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปซึ่งมาจากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้ทุกที่และทุกเวลา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งทำให้ธุรกิจที่มีรูปแบบ E-commerce มีอัตราการเติบโตของธุรกิจมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมต้องเรียนรู้และเข้าใจในขั้นตอนการทำธุรกิจแบบ E-commerce โดยเฉพาะระบบหลังบ้านเพื่อให้สินค้าส่งถึงมือผู้บริโภคได้ตรงตามเวลาที่กำหนดและปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งระบบคลังสินค้าและการแพ็คกิ้งสินค้าคือหนึ่งในผู้ช่วยที่จะให้ธุรกิจคุณสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากที่สุด มารู้จักระบบคลังสินค้าและการแพ็คกิ้งสินค้า ที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาในยุคดิจิทัล ระบบคลังสินค้าช่วยให้สินค้าส่งตรงเวลา เป็นระบบที่บริหารจัดการสินค้าให้มีประสิทธิภาพพร้อมส่งตรงถึงมือผู้บริโภค ซึ่งระบบคลังสินค้าจะเริ่มตั้งแต่การรับสินค้าเข้าสู่คลังสินค้าจนถึงขั้นตอนที่สินค้าได้กระจายไปสู่ผู้บริโภคส่งผลให้ระบบคลังสินค้าจะต้องมีความแม่นยำและถูกต้องเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายต่อธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันระบบคลังสินค้าได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้าให้สามารถแข่งขันได้ในโลกออนไลน์ ระบบคลังสินค้าหลักๆ มีอยู่ 3 ขั้นตอนด้วยกัน 3 ขั้นตอนสำคัญของระบบคลังสินค้า คลังสินค้าเป็นที่เก็บรักษาสินค้าหลากหลายชนิดในจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นธุรกิจที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์การสต็อกสินค้าก็ต้องมีการแบ่งแยกออกมาให้ชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ ระบบคลังสินค้าจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการจัดการบริหารจัดการสินค้าในขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ระบบการรับสินค้า เป็นระบบที่จะนำสินค้าเข้าสู่คลังสินค้าเพื่อต้องการบันทึกรายละเอียดของสินค้าเช่น ชื่อสินค้า, จำนวน, สี, รหัสสินค้า หรือตำแหน่งของสินค้าที่ถูกจัดเก็บ เพื่อจะได้บันทึกลงในบัญชีกำกับสินค้าให้สามารถแยกประเภทในระบบคลังสินค้าให้ง่ายต่อการตรวจสอบของสถานะของสินค้าว่ายังอยู่ในคลังสินค้าหรือได้ถูกจัดส่งไปยังผู้บริโภคแล้ว ระบบจัดเก็บสินค้า เป็นการนำสินค้าไปจัดเก็บที่ชั้นวางสินค้า หรือตำแหน่งที่กำหนดไว้โดยต้องจัดเก็บตามประเภทของสินค้าที่ได้บันทึกไว้ในบัญชีสินค้าของระบบคลังสินค้า ควรมีการติดป้ายกำกับที่สินค้า ไปจนถึงการติดป้ายกำกับตำแหน่งสินค้าที่ชั้นวางสินค้า นอกเหนือจากนั้นควรบริหารพื้นที่ของคลังสินค้าให้เป็นระเบียบ และควรมีช่องทางเดินสำหรับการยก-ย้ายสินค้า รวมไปถึงมีการจัดทำแผนผังคลังสินค้าเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาและเพื่อให้บันทึกรายการสินค้าเข้าและสินค้าออกได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ระบบการเบิก-จ่ายสินค้า เป็นระบบการนำสินค้าออกจากคลังเพื่อนำไปจัดส่งให้กับผู้บริโภค ซึ่งการนำสินค้าออกจากระบบคลังสินค้าควรมีเอกสารการนำสินค้าออกจากคลังสินค้า และนำไปบันทึกในบัญชีสินค้าคงเหลือเพื่อจะได้ตัดสินค้าหรือลดจำนวนสินค้าตามเอกสารการนำสินค้าออกโดยระบุ เวลา/วัน/เดือน/ปี เพื่อจะได้อัพเดทข้อมูลของสินค้าในระบบคลังได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ การแพ็คกิ้งด่านป้องการภัยของสินค้า การแพ็คกิ้งคือการบรรจุหีบห่อสินค้าให้ปลอดภัยและมีสภาพสมบูรณ์มากที่สุด เป็นหนึ่งในขั้นตอนของระบบคลังสินค้าทั้งการจัดเก็บสินค้าและการจัดส่งสินค้า ซึ่งการแพ็คกิ้งสินค้านอกจากจะป้องกันความเสียหายของสินค้าแล้วยังช่วยให้สะดวกในการขนย้าย จัดเก็บ หรือขนส่ง ซึ่งวัสดุในการบรรจุหีบห่อสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมหรือในงานคลังสินค้าไม่เน้นความสวยงามแต่เน้นความแข็งแรง และทนทานของวัสดุ ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการแพ็คกิ้งมีหลายชนิดด้วยกัน การแพ็คกิ้งสินค้าด้วยกล่องกระดาษลูกฟูก เหมาะในการบรรจุสินค้าที่ไม่แตกหักง่าย มีน้ำหนักไม่มากเพราะกล่องกระดาษลูกฟูกชั้นตรงกลางจะมีลักษณะที่เป็นลอนสำหรับลดแรงกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีหากต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้าก็สามารถใช้พลาสติกใสในการแรปสินค้าก่อนบรรรจุลงในกล่องกระดาษลูกฟูกและติดเทปการบริเวณปากกล่องก่อนการจัดเก็บสินค้า ซึ่งกระดาษลูกฟูกเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการแพ็คกิ้งสินค้าในธุรกิจทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น B2B หรือ B2C ด้วยกล่องกระดาษลูกฟูกจะมีหลายขนาด มีน้ำหนักเบา และราคาไม่สูง เมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่น การแพ็คกิ้งสินค้าด้วยลังไม้ เหมาะสำหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ แตกหักได้ง่าย มีน้ำหนักมาก เช่น สุขภัณฑ์ แจกัน เครื่องจักร ซึ่งลังไม้ที่ใช้ในการแพ็คกิ้งมี 2 ประเภทด้วยกัน คือลังไม้แบบโปร่ง และลังไม้แบบทึบ การแพ็คกิ้งสินค้าด้วยลังไม้ควรต้องมีวัสดุอื่นมาห่อหุ้มสินค้าเพื่อป้องกันการกระแทกของสินค้ากับลังไม้ เช่น กระดาษลูกฟูก, พลาสติกกันกระแทก, โฟมตัวหนอน เป็นต้น การแพ็คกิ้งด้วยแรปพลาสติกใส เหมาะสำหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ใช้ป้องกันความสกปรก นิยมในการใช้แรปเฟอร์นิเจอร์ เช่น เก้าอี้, โซฟา, เตียง เป็นต้น พลาสติกใสที่ใช้ในการแรปสินค้าจะแตกต่างจากพลาสติกทั่วไปที่ใช้ห่อหรือบรรจุอาหารจะมีความหนา ทนทานและแข็งแรงมากกว่า และยังมีคุณสมบัติที่พลาสติกสามารถติดกันได้โดยที่ไม่ต้องติดเทป การแพ็คกิ้งด้วยลังพลาสติกหรือกล่องพลาสติก สามารถใช้บรรจุสินค้าได้หลากหลายชนิดนิยมใช้ในการจัดเก็บและจัดส่งสินค้า ลังพลาสติกและกล่องพลาสติกมีหลายขนาดและหลายประเภทมีทั้งแบบทึบแบบใส มีล้อไม่มีล้อ แบบมีฝาหรือไม่มีฝา ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและลักษณะของสินค้า ระบบคลังสินค้าและการแพ็คกิ้งสินค้าช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ดีในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะการทำธุรกิจแบบ E-commerce ที่หน้าร้านของสินค้าคือเว็บไซต์ที่ทุกคนต้องเข้าไปสั่งซื้อสินค้าเองผ่านระบบการสั่งซื้อของเว็บไซต์ ซึ่งการที่ไม่มีหน้าร้านทำใหธุรกิจที่มีรูปแบบ E-commerce ต้องมีคลังสินค้าและมีระบบคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าเพื่อจัดส่งสินค้า และการแพ็คกิ้งแบบมืออาชีพเพื่อให้สินค้ามีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดเมื่อถึงมือลูกค้า การเปลี่ยนแปลงของระบบคลังสินค้าในยุคที่ใครๆ ก็อยากทำธุรกิจแบบ E-Commerce สถิติจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เผยมูลค่าอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยปี 63 อยู่ที่ 3.78 ล้านล้านบาท และปี 64 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.01 ล้านล้านบาทซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจแบบ E-commerce มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีส่งผลให้ระบบคลังสินค้าและการแพ็คกิ้งสินค้าต้องเพิ่มศักยภาพในระบบมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะระบบคลังสินค้าที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ด้วยการเชื่อมต่อระบบต่างๆ ที่เป็นระบบอัตโนมัติที่อยู่ในคลังสินค้าด้วยอินเตอร์เน็ต (loT) และนำระบบ Software WMS มาใช้ในการบริหารจัดการคลังสินค้า รวมไปถึงการแพ็คกิ้งสินค้าที่ใช้ระบบอัตโนมัติแทนการใช้แรงงานคน ซึ่งหัวใจหลักของการทำธุรกิจแบบ E-commerce จะต้องมีความรวดเร็วและสมบูรณ์ไปพร้อมๆ กันทำให้หลายๆ บริษัทที่ต้องการทำธุรกิจแบบ E-commecre อาจจะยังไม่มีความพร้อมในการลงทุนกับระบบคลังสินค้าแบบอัตโนมัตินี้จึงเป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการ เช่น บริการให้เช่าคลังสินค้า หรือขายคลังสินค้าสามารถปรับรูปแบบธุรกิจให้เป็นบริการรับฝากสินค้า การแพ็คกิ้งสินค้า และจัดส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคเป็นบริการแบบครบวงจรที่ผู้ประกอบการไม่ต้องมีทั้งหน้าร้านและคลังสินค้า แต่ยังสามารถดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี Jenstore by Jenbunjerd ศูนย์รวมอุปกรณ์และบรรจุภัณฑ์สำหรับการแพ็คกิ้งแบบครบวงจร เช่น กล่องกระดาษ, กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, โต๊ะแพ็คสินค้า, สายรัด PP , ซีลล็อกนิรภัย, เครื่องรัดสาย, พลาสติกกันกระแทก, กระดาษลูกฟูก, ฟิล์มยืดพันพาเลท เป็นต้น พร้อมยินดีให้คำปรึกษาในการเลือกใช้ให้ตรงตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ มีบริการหลังการขายและการรับประกันคุณภาพสินค้า ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถเข็นบริการประเภทไหนที่ใช่สำหรับธุรกิจบริการของคุณ

รถเข็นบริการประเภทไหนที่ใช่สำหรับธุรกิจบริการของคุณเลือกรถเข็นบริการที่ใช่ และใช้ให้ถูกต้อง รถเข็นเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ว่าธุรกิจไหนๆ ก็ต้องคุ้นเคยเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการขนย้ายสิ่งของตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ มีประโยชน์อย่างมาก เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรง ช่วยประหยัดเวลา และยังช่วยเพิ่มรอบในการทำงาน ทำให้การขนย้ายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที โดยเฉพาะรถเข็นบริการเป็นอุปกรณ์ที่ธุรกิจบริการควรจะต้องมี เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จะคอยช่วยเหลือลูกค้าให้ได้รับความสะดวกและเกิดความพึงพอใจที่ได้รับการบริการรถเข็นบริการมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจยกตัวอย่างเช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้า ซึ่งรถเข็นบริการเป็นอุปกรณ์ที่มักถูกใช้งานเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ดังนั้นการเลือกใช้งานรถเข็นบริการจึงต้องเลือกใช้งานให้ถูกประเภทและใส่ใจในการเลือกรถเข็นที่มีมาตรฐานเพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ ประเภทของรถเข็นบริการ กับการบริการทุกระดับประทับใจ 1. รถเข็นบริการสำหรับร้านค้าต่างๆ หรือห้างสรรพสินค้าเป็นรถเข็นบริการที่มีไว้เพื่อใส่สินค้าที่ลูกค้าต้องการซื้อ ทำให้สะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าและยังสร้างยอดขายให้กับร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าได้เพราะทำให้ลูกค้าใช้เวลาในการเลือกซื้อสินค้านานมากขึ้นจึงเป็นการสร้างโอกาสที่ดีในการเพิ่มยอดขายได้ ซึ่งรถเข็นบริการร้านค้าต่างๆ หรือห้างสรรพสินค้ามีด้วยกัน 3 ประเภท คือ 1.1 รถเข็นช้อปปิ้งสำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป เป็นรถเข็นบริการที่โครงสร้างมักผลิตจากเหล็กและจะมีตะแกรงขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายตะกร้าทำจากลวดเพลาตันชุบซิงค์เพื่อป้องกันสนิมไว้ใส่สิ่งของ และยังมีตะแกรงลวดด้านล่างติดกับล้อเพื่อใช้วางสินค้าที่มีขนาดใหญ่มากๆ พร้อมกับมีพื้นที่เล็กๆ ที่สามารถพับเก็บได้เพื่อเป็นที่นั่งของเด็กทำให้มีความคล่องตัวในการจับจ่ายสินค้ามากยิ่งขึ้น และรถเข็นช้อปปิ้งยังประหยัดพื้นที่ในการเก็บเพราะสามารถซ้อนคันเก็บได้ 1.2 รถเข็นอเนกประสงค์ เป็นรถเข็นบริการที่มักใช้ในการขนย้ายวัสดุหลากหลายประเภท เช่น วัสดุก่อสร้าง, วัสดุเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องมือช่าง โครงสร้างของรถเข็นประเภทอเนกประสงค์จะมีลักษณะคล้ายกันกับรถเข็นช้อปปิ้งสินค้าอุปโภคบริโภคแต่ตะแกรงลวดที่คล้ายตะกร้าจะมีความจุน้อยกว่าและมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น บางรุ่นจะมีตะแกรงลวดคล้ายตะกร้าทั้งบนและล่าง แต่บางรุ่นจะมีลักษณะเป็นพื้นตะแกรงลวดทั้งด้านบนและด้านล่างและสามารถปรับระดับได้เพื่อรองรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก สำหรับรถเข็นบริการชนิดนี้มีบางรุ่นที่สามารถซ้อนเก็บได้ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ รถเข็นบริการประเภทนี้เหมาะสำหรับขนย้ายอุปกรณ์ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากเพราะที่ล้อนอกจากจะเลือกใช้ล้อเป็นแล้วยังมีล้อตาย หรือล้อติดเบรคเพื่อสร้างความปลอดภัยจากการรองรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากจากการขนย้าย บางรุ่นเป็นรถเข็นเหล็ก บางรุ่นเป็นรถเข็นสแตนเลส 1.3 รถเข็นสำหรับใส่ตะกร้าช้อปปิ้ง เป็นรถเข็นบริการที่ใช้เข็นตะกร้าสินค้าสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าจำนวนไม่มาก โครงสร้างของรถเข็นเหมือนกับโครงสร้างรถเข็นช้อปปิ้งแต่จะมีขนาดเล็กกว่ารับน้ำหนักได้น้อยกว่า รถเข็นบริการชนิดนี้จะมีลวดเหล็กทั้งชั้นบนและชั้นล่างทำให้สามารถวางตะกร้าสินค้า 2 ใบพร้อมกันได้ และล้อเป็นประเภทล้อเกลียวทำให้คล่องตัวในการเคลื่อนที่เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่แคบ 2. รถเข็นบริการสำหรับงานโรงแรมการบริการของโรงแรมจำเป็นต้องมีรถเข็นโรงแรมเพื่อให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการที่โรงแรม เช่น การขนย้ายกระเป๋า, การเสริฟท์อาหาร เพื่อสร้างความสะดวกสำหรับลูกค้า มีความรวดเร็วในการให้บริการและช่วยทุ่นแรงสำหรับพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งรถเข็นบริการที่มักนิยมใช้สำหรับงานโรงแรมมีดังนี้ 2.1 รถเข็นสัมภาระ เป็นรถเข็นบริการที่ธุรกิจโรงแรม หรือรีสอร์ทจะต้องมีสำหรับขนกระเป๋าเสื้อผ้าหรือสิ่งของที่ผู้เข้าพักนำติดตัวมาด้วยเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก รถเข็นบริการชนิดนี้มีประโยชน์อย่างมาก จะมีลักษณะคล้ายรถเข็นสิ่งของสี่ล้อแต่จะมีด้ามจับทั้งสอง 2 ด้าน ในบางรุ่นเพิ่มฟังก์ชั่นขึ้นมาด้วยการมีราวแขวนเสื้อผ้า และมีตะแกรงกันตกทั้ง 4 ด้านเพื่อใช้แขวนเสื้อผ้าไม่ให้ยับและป้องกันการตกหล่นของกระเป๋าขณะเคลื่อนย้าย โครงสร้างส่วนใหญ่ทำจากสเตนเลส พื้นของรถเข็นสัมภาระอาจจะเป็นพื้นสเตนเลสหรือบางรุ่นจะมีปูพรม สีแดง สีดำ สีน้ำเงิน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ 2.2 รถเข็นผ้า เป็นรถเข็นบริการที่มีจุดประสงค์ขนย้ายเสื้อผ้า ผ้าขนหนู หรืองานผ้าที่ต้องใช้สำหรับผู้ที่เข้าพักของโรงแรม ซึ่งรถเข็นผ้าจะมีโครงสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมทำจากวัสดุสเตนเลสและเหล็ก รถเข็นบริการชนิดนี้จะมีอยู่ 2 ประเภทคือ รถเข็นผ้าแบบเปียกและแบบแห้ง รถเข็นผ้าแบบเปียกจะมีลักษณะเป็นตะแกรงคล้ายตะกร้าผ้าขนาดใหญ่ซึ่งทำจากสเตนเลสและเหล็ก รถเข็นผ้าแบบแห้งจะมีโครงสร้างเป็นทรงสี่เหลี่ยมเพื่อใช้เป็นโครงสำหรับยึดถุงผ้าหรือถุง PVC สำหรับรองรับเสื้อผ้าแห้งโดยจะมีฐานของโครงสร้างรองรับน้ำหนักของถุงผ้าและถุง PVC อีกที ถุงผ้าและถุง PVC สามารถถอดซักได้ บางรุ่นจะมีราวเพื่อแขวนผ้า มีทั้งแบบพับเก็บได้และพับเก็บไม่ได้ และแบบมีด้ามจับและไม่มีด้ามจับ 2.3 รถเข็นเก็บจาน เป็นรถเข็นบริการที่เก็บจานและเศษอาหารที่กินเสร็จแล้ว เพื่อสุขอนามัยของสถานที่และผู้มาใช้บริการ รถเข็นเก็บจานถือว่าเป็นรถบริการที่สร้างความเชื่อมั่นถึงความสะอาดของโรงแรมได้ โครงสร้างผลิตจากสเตนเลสเกรด 304 ไม่เป็นสนิมหรือผลิตจากพลาสติก ซึ่งโดยส่วนใหญ่รถเข็นเก็บจานจะมีชั้นวางของประมาณ 2-3 ชั้นขึ้นไป ซึ่งบางรุ่นจะมีถังเก็บเศษอาหาร หรือมีกล่องแขวนด้านข้างพร้อมบานประตูเปิด-ปิดเพื่อใส่ของจิปาถะหรือจะใส่ถังเก็บเศษขยะ ซึ่งสามารถถอดออกจากตัวรถเข็นได้ ประโยชน์ของรถเข็นบริการสำหรับธุรกิจบริการแล้วรถเข็นบริการนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทุ่นแรงแล้วยังมีประโยชน์ด้านอื่นที่มีผลดีทั้งต่อธุรกิจและพนักงานประหยัดเวลาในการขนย้ายสินค้าโดยเฉพาะสินค้าหรือสิ่งของที่มีจำนวนมากต้องใช้เวลาในการขนย้าย รถเข็นบริการช่วยให้การขนย้ายใช้เวลาน้อยลงเพราะรถเข็นมีหลายขนาดให้เลือกใช้งานซึ่งหากสินค้ามีจำนวนมากก็สามารถเลือกใช้รถเข็นที่มีขนาดใหญ่ได้ อีกทั้งรถบริการยังมีความรวดเร็วในการขนย้ายอีกด้วยลดการเกิดอุบัติเหตุของผู้ใช้งาน ในที่นี้หมายถึงทั้งพนักงานและบุคคลคนทั่วไปที่ต้องใช้งานรถเข็นบริการโดยเฉพาะสินค้าหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมากซึ่งหากขนย้ายโดยใช้แรงคนไม่ว่าจะเป็นการยก การลาก หากขนย้ายผิดวิธีอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นสาเหตุให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บได้ รถเข็นบริการจึงมาช่วยลดโอกาสที่จะเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจ รูปลักษณ์และประสิทธิภาพของรถเข็นเป็นเหมือนภาพลักษณ์ของบริษัทที่สะท้อนผ่านรถเข็นบริการถึงความใส่ใจจากผู้ให้บริการต่อผู้รับบริการการเลือกซื้อรถเข็นบริการเพื่อใช้งานธุรกิจจึงต้องคำนึงทั้งรูปลักษณ์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตรถเข็นบริการ และที่สำคัญมาตรฐานของรถเข็นบริการซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมJenstore by Jenbunjerd เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถเข็นบริการสำหรับธุรกิจบริการแบบครบวงจร ที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ทนทาน และมีมาตรฐานระดับสากล พร้อมรับงานสั่งทำรถเข็นบริการตามแบบเพื่อให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุด ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าพร้อมบริการหลังการขายจากมืออาชีพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected]บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
ขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วยฟิล์มยืดพันพาเลท

ขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วยฟิล์มยืดพันพาเลทลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพเมื่อใช้งานฟิล์มยืดพันพาเลทอย่างถูกวิธี การขนส่งสินค้าเป็นหนึ่งในกระบวนการของธุรกิจที่สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ หากมีการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ทำให้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเพราะมีหน้าที่ขนส่งสินค้าให้ถึงปลายทางอย่างปลอดภัยและตรงตามเวลาที่กำหนดหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของกระบวนการขนส่งคือการแพ็คสินค้าเพราะเป็นขั้นตอนที่ช่วยปกป้องสินค้าจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นขณะขนย้าย หรือสภาพอากาศ อุปกรณ์แพ็คสินค้าที่จะใช้ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จึงมีความสำคัญเพราะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้าได้ อุปกรณ์แพ็คสินค้าที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์คือ ฟิล์มยืดพันพาเลท ฟิล์มยืดพันพาเลทผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิด LDPE, LLDPE, EVA และ PVC แต่ที่นิยมในปัจจุบันคือ LLDPE ซึ่งในกระบวนการผลิตจะใส่สารบางชนิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฟิล์มยืดพันพาเลท เช่น สารเกาะติด เพื่อช่วยให้ฟิล์มสามารถติดได้ดีกับวัตถุที่ต้องพัน, สารป้องกันรังสีอัลตรไวโอเลต เพื่อยืดอายุการใช้งานของฟิล์มยืดพันพาเลท ด้วยวัตถุดิบและสารเติมแต่งดังกล่าวทำให้ฟิล์มยืดพันพาเลทมีความเหนียว ยืดหยุ่นสูง เกาะยึดได้ดี และทนทานต่อสภาพอากาศ ทำให้การแพ็คสินค้าที่ต้องการให้สินค้ารวมเป็นกลุ่มเดียวกันมีความสะดวก รวดเร็ว และป้องกันสินค้าจากแดด, ฝน หรือความชื้นได้ดี นอกจากนั้นฟิล์มยืดพันพาเลทยังช่วยลดต้นทุนให้กับการดำเนินธุรกิจได้ เนื่องด้วยฟิล์มยืดพันพาเลทมีความยืดหยุ่นสูงจึงสามารถยืดฟิล์มยืดพันพาเลทได้ถึง 200-300 เปอร์เซ็นต์จากขนาดจริง ตัวอย่างเช่น หากต้องใช้ฟิล์มยืดพันพาเลทความยาว 300 เมตรในการแพ็คสินค้าอาจจะใช้จริงแค่ 100 เมตรเท่านั้นเพราะฟิล์มยืดพันพาเลทสามารถยืดได้ถึง 300 เมตรทำให้ประหยัดต้นทุนสำหรับอุปกรณ์แพ็คสินค้าเป็นอย่างมาก นอกจากการยืดหยุ่นที่ดีแล้ววิธีการแพ็คสินค้าที่มีประสิทธิภาพจะส่งผลให้กระบวนการขนส่งมีประสิทธิผลได้มากขึ้นเพราะการแพ็คสินค้าเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ช่วยให้สินค้ามีสภาพสมบูรณ์ 100% เมื่อถึงปลายทางนั้นย่อมหมายถึงผลกำไรของธุรกิจที่กำลังจะเติบโตขึ้นในอนาคต วิธีและรูปแบบในการใช้ฟิล์มยืดพันพาเลทช่วยให้สินค้าปลอดภัยจากการขนย้ายและขนส่ง วิธีในการใช้ฟิล์มยึดพันพาเลทเพื่อแพ็คสินค้านั้นสามารถทําได้ 2 วิธีคือ การใช้แรงคนและการใช้เครื่องพันฟิล์ม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการใช้ฟิล์มยืดพันพาเลทแบบไหนหากวิธีในการพันเป็นวิธีที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันความเสียหายของสินค้าและลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจส่งผลให้ธุรกิจสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้ โดยวิธีในการพันฟิล์มยืดพันพาเลท มีดังนี้การพันฟิล์มยืดพันพาเลทแบบใช้แรงคน เป็นการแพ็คสินค้าโดยการใช้แรงจากมือ โดยจุดที่ต้องให้ความสำคัญคือการประกอบแกนพลาสติกเข้ากันม้วนฟิล์มยืดพันพาเลทเพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างการพันฟิล์มเพราะต้องใช้แรงในการยืดฟิล์มยืดพันพาเลทเพื่อแพ็คสินค้า โดยจะลอดนิ้วเข้าไปในแกนพลาสติกและให้นิ้วโป้งอยู่ด้านนอกแกนซึ่งหากไม่ประกอบแกนพลาสติกให้ดีอาจบาดเจ็บได้ สำหรับในการพันฟิล์มยืดพันพาเลทเพื่อแพ็คสินค้าควรหันด้านในของฟิล์มเข้ากับวัตถุที่ต้องการพันเพราะด้านในของฟิล์มยืดพันพาเลทสามารถเกาะตัวได้ดีต่อวัตถุ โดยก่อนเริ่มการพันจะต้องเหน็บปลายของฟิล์มยืดพันพาเลทเข้าไปที่ลังสินค้าชั้นที่ใกล้กับพาเลทเพื่อเป็นตัวยึดในการในการยืดฟิล์มยืดพันพาเลทและเป็นจุดเริ่มต้นในการพันสินค้าโดยให้ผู้ที่ต้องพันพาเลทถอยหลังออกจากสินค้าที่ต้องพันเพื่อเป็นแรงส่งในการยืดฟิล์มยืดพันพาเลทและป้องกันการเวียนหัว การพันควรเริ่มพันจากด้านล่างขึ้นบนโดนเน้นที่มุมฐานของพาเลทเพื่อป้องกันการขยับของสินค้าขณะพันฟิล์มการใช้เครื่องพันฟิล์มในการพันพาเลท เป็นอุปกรณ์แพ็คสินค้าที่ช่วยให้การพันสินค้ามีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยเครื่องพันฟิล์มเป็นเครื่องจักรอัตโนมัติ และกึ่งอัตโนมัติแบบจานหมุน ใช้พันสินค้าด้วยฟิล์มยืดพันพาเลท ซึ่งสามารถตอบสนองต่อขนาดของสินค้าได้ทั้งความสูงและน้ำหนักของสินค้า รวมไปถึงแรงในการยืดฟิล์มยืดพันพาเลทด้วย โดยเครื่องพันฟิล์มจะมีฟังก์ชั่นในการทำงาน เช่น อัตราการยืดฟิล์ม, ความเร็วของรอบในการพัน, ความสูงในการพัน เป็นต้น เพื่อเพิ่มเติมความสามารถของเครื่องพันฟิล์มให้เป็นไปตามความต้องการได้ ซึ่งรูปแบบของการพันฟิล์มพาเลทจะพันจากล่างขึ้นบนเหมือนการพันฟิล์มยืดพันพาเลทแบบใช้มือ ซึ่งการใช้เครื่องพันฟิล์มหมาะกับธุรกิจที่มีการผลิตและการส่งออกสินค้าต่อครั้งเป็นจำนวนมากรูปแบบในการพันฟิล์มยืดพันพาเลทมีด้วยกัน 3 รูปแบบ รูปแบบที่ 1 เป็นสินค้าทั่วไปที่แพ็คสินค้าด้วยลัง รูปแบบการจัดเรียงบนพาเลทฐานของลังและพาเลทมีฐานเสมอกันหรือใกล้เคียงกัน ซึ่งลักษณะการวางลังสินค้าแบบนี้ทำให้ง่ายต่อการพันฟิล์มยืดพันพาเลทโดยการพันฟิล์มยืดพันพาเลทจะแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนล่าง ส่วนกลาง และส่วนบน โดยรอบของการพันฟิล์มยืดพันพาเลท คือ 3:2:3 โดยชั้นระหว่างชั้นกลางควรเน้นพันให้ทับซ้อนเหลื่อมกันประมาณ 10 ซม. รูปแบบที่ 2 รูปแบบการเรียงสินค้าบนพาเลทมีความสม่ำเสมอน้อยกว่าแบบที่ 1 สินค้าอาจบรรจุด้วยถุงหรือกระสอบซึ่งมีขอบที่โค้งมน ดังนั้นรอบในการพันฟิล์มยืดพันพาเลทจะมีจำนวนรอบที่มากกว่าแบบที่ 1 และมีการแบ่งส่วนในการพันแค่ 2 ส่วนคือด้านล่างและด้านบน โดยรอบในการพัน คือ 4:3 โดยการพันฟิล์มยืดพันพาเลทที่ด้านล่างควรเริ่มพันแบบหลวมๆ และออกแรงในการยืดฟิล์มไม่มาก ก่อนที่จะออกแรงยืดเพื่อพันฟิล์มยืดพันพาเลทให้แน่นขึ้นรูปแบบที่ 3 สินค้ามีขนาดที่แตกต่างกันทำให้เกิดเหลี่ยมมุมเป็นจำนวนมาก การเรียงสินค้าบนพาเลทเป็นรูปแบบอิสระซึ่งส่งผลให้ฐานไม่เสมอกัน จำนวนรอบในการพันสินค้าไม่สามารถระบุจำนวนได้ต้องดูตามความเหมาะสมที่หน้างาน โดยเน้นพันแบบพันทับซ้อนเหลื่อมกันประมาณ 20 เซนติเมตรโดยด้านล่างให้พันในการลักษณะไขว้กากบาทประมาณ 2 รอบระหว่างสินค้าและพาเลทความคุ้มค่าของฟิล์มยืดพันพาเลทที่มีต่อธุรกิจ ลดต้นทุนของอุปกรณ์แพ็คสินค้า เพราะฟิล์มยืดพันพาเลทสามารถยืดได้ถึง 200 - 300 เปอร์เซ็นต์จากขนาดจริงโดยเฉพาะการแพ็คสินค้าโดยใช้เครื่องพันฟิล์มมีแรงในการยืดฟิล์มได้มากกว่ามือบางครั้งอาจยืดฟิล์มยืดพันพาเลทได้มากถึง 400 เปอร์เซ็นต์ซึ่งขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของฟิล์มแต่ชนิดด้วยเช่นกันทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์แพ็คสินค้าในการขนย้ายหรือขนส่งได้เป็นจำนวนมากลดต้นทุนที่ไม่คาดคิด โดยต้นทุนข้อนี้อาจเกิดจากความเสียหายของสินค้าที่เกิดระหว่างการขนย้ายหรือขนส่งสินค้าซึ่งเกิดจากการแพ็คสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพส่งผลให้สินค้าตกหล่น หรือโดนฝนโดนแดดทำให้สินค้าเสื่อมคุณภาพได้ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บริษัทที่ผลิตสินค้าหรือขนส่งสินค้าต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากพันฟิล์มพาเลทจะช่วยลดปัญหาสินค้าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นลดต้นทุนด้านแรงงาน การแพ็คสินค้าโดยใช้ฟิล์มยืดพันพาเลททั้งแบบการใช้แรงงานคนและการใช้เครื่องพันฟิล์มจะใช้พนักงานแค่เพียง 1 คนในการแพ็คสินค้าทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานที่จะต้องแพ็คสินค้าลงไปลดเวลาในการทำงาน ด้วยคุณสมบัติของฟิล์มยืดพันพาเลทที่มีคุณสมบัติในการติดกับวัตถุได้ง่ายทำให้ลดเวลาในการทำงานได้มากขึ้นอีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการแพ็คสินค้าให้มีความปลอดภัยได้อีกด้วยโดยเฉพาะหากใช้เครื่องพันฟิล์มจะยิ่งช่วยให้การแพ็คสินค้ารวดเร็วมากยิ่งขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการขนย้ายและขนส่ง เพราะการแพ็คสินค้าให้เป็นกลุ่มเดียวกันทำให้รอบในการขนย้ายหรือขนส่งเพิ่มมากขึ้นซึ่งหมายถึงจำนวนของสินค้าที่จะกระจายไปยังปลายทางก็มากขึ้นเช่นกัน ทำให้ธุรกิจมีการหมุนเวียนของสินค้าที่รวดเร็วซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคตลดต้นทุนในการเช่าพื้นที่ในการจัดเก็บ การแพ็คสินค้าด้วยฟิล์มยืดพันพาเลททำให้สินค้ารวมเป็น 1 กลุ่มทำให้พื้นที่ในการจัดเก็บสินค้ามีเพิ่มมากขึ้นทั้งในคลังสินค้าและในพื้นที่ในการขนส่งสินค้าจึงทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่าพื้นที่เพื่อจัดเก็บสินค้าลดลงอีกด้วย หรือการพันฟิล์มพาเลทช่วยให้เก็บสินค้าได้มากขึ้นนำมาสู่รายได้ที่มากขึ้นด้วยคุณสมบัติของฟิล์มยืดพันพาเลทและการแพ็คสินค้าอย่างถูกวิธีส่งผลให้การขนส่งและขนย้ายมีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลออกมาในรูปแบบของยอดขายและผลกำไร ดังนั้นในการเลือกซื้อฟิล์มยืดพันพาเลทควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานเพราะการแพ็คสินค้าที่มีขนาด น้ำหนัก หรือบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างกันก็ต้องเลือกใช้ฟิล์มยืดพันพาเลทที่มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกันออกไปด้วย รวมไปถึงขนาด ความยาว และความหนาของฟิล์มยืดพันพาเลทก็มีผลต่อการนำไปใช้งานทั้งสิ้น Jenstore by Jenbunjerd เป็นศูนย์รวมอุปกรณ์หีบห่อ แบบครบวงจรที่มีคุณภาพและทนทาน เช่น ฟิล์มยืดพันพาเลท, โต๊ะแพ็คสินค้า, พลาสติกกันกระแทก, เครื่องรัดกล่อง, กล่องกระดาษ, กระดาษลูกฟูก, เครื่องรัดสายรัดพลาสติก, รถเข็นใส่สายรัด PP ฯลฯ ยินดีให้คำปรึกษาและรับจัดหาสินค้าให้ตรงตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ พร้อมมีบริการหลังการขายที่ใส่ใจทุกความต้องการของลูกค้า ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected]บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาล ควรคำนึงถึงมาตรฐานอะไร มีรถเข็นอะไรบ้าง

รถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาล ควรคำนึงถึงมาตรฐานอะไร มีรถเข็นอะไรบ้างมาตรฐานของรถเข็นโรงพยาบาลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปลอดภัยจากการใช้งาน รถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาลเป็นรถเข็นที่ต้องมีมาตรฐานและความปลอดภัยทั้งด้านการใช้งาน และถูกต้องตามสุขอนามัย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะที่ต้องการให้ผู้รับบริการได้รับบริการที่ดีและมีมาตรฐาน ซึ่งรถเข็นโรงพยาบาลมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป บางครั้งมีความเสี่ยงที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในวงกว้างจนทำให้เกิดอันตรายได้ จึงส่งผลให้โรงพยาบาลต้องใส่ใจในการเลือกซื้อรถเข็นเพื่อให้ปลอดภัยต่อบุคลากรในโรงพยาบาลและผู้มาใช้บริการ โดยเฉพาะรถเข็นคนไข้ที่ต้องได้มาตรฐาน มอก. เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพ ส่วนรถเข็นประเภทอื่น ๆ เช่น รถเข็นฉีดยา, รถเข็นทำแผล, รถเข็นทางการแพทย์ หรือรถเข็นชาร์ตคนไข้เป็นครุภัณฑ์การแพทย์ที่มีรายละเอียดและลักษณะเฉพาะ ที่แต่ละโรงพยาบาลกำหนดการเลือกซื้อโดยส่วนใหญ่มักมีข้อคำนึงดังต่อไปนี้ ข้อควรคำนึงในการเลือกซื้อรถเข็นโรงพยาบาล 1. วัสดุที่ใช้ผลิตรถเข็นโรงพยาบาล วัสดุที่ใช้ในการผลิตรถเข็นมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะส่วนใหญ่จะนำมาผลิตโครงสร้างของรถเข็น รวมไปถึงชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่จะต้องใช้งานซึ่งวัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตรถเข็นที่ใช้สำหรับโรงพยาบาลมี 2 ชนิดด้วยกันคือ 1.1 สเตนเลส รถเข็นส่วนใหญ่ที่ใช้ในโรงพยาบาลมักจะถูกผลิตจาก สเตนเลสซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติที่ความปลอดภัยจากการใช้งาน ด้วยสเตนเลสมีความเป็นกลางสูงจึงไม่ดูดซึมสารใด ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้ อีกทั้งรถเข็นที่ทำจากสเตนเลสสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง-ต่ำได้ดี มีความทนทาน แข็งแกร่ง และทนต่อการกัดกร่อน เช่น กรด ด่าง สารละลาย ที่สำคัญไม่เป็นสนิมและดูแลทำความสะอาดได้ง่าย จึงเหมาะสมในการเป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิตรถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาลที่ต้องการความปลอดภัยเพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อโรคที่เกิดจากการใช้งานของรถเข็นโรงพยาบาลซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่ใช้งาน หรือผู้ป่วยที่ได้รับสิ่งของที่ถูกขนย้ายด้วยรถเข็นหรือจากการใช้งานรถเข็น ชนิดของสสเตนเลสที่นิยมนำมาผลิตรถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาลคือ 304 1.2 เหล็ก เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งชนิดของเหล็กที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตรถเข็นคือ เหล็กกล้าไร้สนิม หรือเหล็กกล้าเคลือบผิว เช่น การชุบด้วยโครเมียม เพราะมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนจึงป้องกันการเกิดสนิมได้ ซึ่งเหล็กกล้าไร้สนิทหรือเหล็กกล้าเคลือบผิว มักนำมาใช้ผลิตรถเข็นโรงพยาบาล รถเข็นคนไข้ซึ่งควรเลือกซื้อรถเข็นที่มีมาตรฐาน มอก. เพื่อรองรับคุณภาพ เช่น มอก.702-2551 2. ล้อรถเข็น ล้อรถเข็นที่ใช้สำหรับโรงพยาบาลควรเป็นล้อที่ไม่ทิ้งรอยของล้อไว้บนพื้นเพื่อเป็นการรักษาความสะอาดของสถานที่ ไม่มีเสียงรบกวนขณะเคลื่อนที่ มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นไม่ติดขัดโดยเฉพาะรถเข็นคนไข้ที่ต้องการความรวดเร็วในการเคลื่อนย้าย ส่วนใหญ่จำนวนล้อที่ใช้สำหรับรถเข็นจะมี 4 ล้อขึ้นไปขึ้นอยู่กับการใช้งานซึ่งรวมไปถึงลักษณะของล้อด้วยเช่นกัน ล้อรถเข็นที่เหมาะสมกับรถเข็นโรงพยาบาลมีด้วยกัน 3 ประเภท 2.1 ลูกล้อยางธรรมชาติ ผลิตจากยางธรรมชาติจึงทำให้ล้อมีความนิ่มและยืดหยุ่น ไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวน และไม่ทำให้พื้นเป็นรอย จึงเหมาะสำหรับใช้ในการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีความถี่ ใช้ได้ดีกับพื้นกระเบื้อง, พื้นไม้, พื้นเซรามิก, หินอ่อน, พื้นคอนกรีต ลูกล้อยางธรรมชาติที่ใช้กันทั่วไปจะมีสีดำและสีเทาซึ่งการเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของการใช้งานแต่ละโรงพยาบาล 2.2 ลูกล้อยูรีเทน มีคุณสมบัติที่ไม่ทิ้งรอยล้อบนพื้น ไม่มีเสียงรบกวน มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย และไม่ยุบตัวรองรับน้ำหนักเมื่อรถเข็นจอดอยู่นิ่ง ๆ ได้ ลูกล้อยูรีเทนสามารถเคลื่อนที่ได้ดีในพื้นที่เรียบ เช่น กระเบื้อง, พื้นไม้, พื้นปูน หรือหินอ่อน 2.3 ลูกล้อโพลียูรีเทน มีคุณสมบัติเหมือนล้อยูรีเทน แต่มีความพิเศษมากกว่าคือมีความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นกว่าล้อยูรีเทนสามารถทนต่อสารเคมี สารกัดกร่อน สามารถใช้บนพื้นที่มีน้ำมัน ทนต่อสภาพอุณภูมิได้ตั้งแต่ -40 องศาเซลเซียส ถึง 100 องศาเซลเซียส ทนต่อการเสียดสี ไม่ฉีกขาดง่าย ไม่มีเสียงรบกวน ไม่ทิ้งรอยล้อบนพื้น และสามารถใช้งานได้ในทุกสภาพพื้นผิว 3. ฟังก์ชั่นการใช้งาน ฟังก์ชั่นการใช้งานของรถเข็นขึ้นอยู่กับประเภทของรถเข็นโรงพยาบาลซึ่งรถเข็นโรงพยาบาลมีหลายประเภท เช่น รถเข็นผู้ป่วย, รถเข็นทำแผล, รถเข็นฉีดยา, รถเข็นตู้ยา, รถเข็นผ้าเปื้อนหรือแม้กระทั่งรถเข็นชาร์ตผู้ป่วย ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานจะมีความแตกต่างกันไปตามหน้าที่ของรถเข็นโรงพยาบาล เช่น รถเข็นคนไข้ควรเลือกซื้อรถเข็นที่มีมาตรฐานมอก.702-2551 ต้องมีระบบรองรับร่างกาย ระบบขับเคลื่อน ล้อ โครงสร้าง ระบบหุ้มล้อ สกรู และอุปกรณเสริม ที่มีมาตรฐานไม่มีผลกระทบทางด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้ดูแล, รถเข็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีลิ้นชัก พร้อมพื้นเรียบและมีขอบ มีที่จับเพื่อเข็นรถ มีลูกล้อ และไม่เคยผ่านการใช้งาน เป็นต้น 4. การรับประกันจากร้านค้า เป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ควรต้องคำนึงถึงเพราะเป็นการบ่งบอกถึงคุณภาพของสินค้าและการรับผิดชอบของร้านค้าที่ขายรถเข็นซึ่งการรับประกันจากร้านค้าควรมีอายุประกันสินค้า 1 ปี สำหรับเปลี่ยนหรือซ่อมแซมได้เมื่อมีการชำรุดหรือเสียหาย รถเข็นโรงพยาบาลที่นำมาจำหน่ายต้องไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนและมีคู่มือการใช้งานเพื่อให้คำแนะนำการใช้งานรถเข็นได้อย่างถูกวิธี ทั้ง 4 ข้อเป็นข้อมูลที่โรงพยาบาลมักนำมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจซื้อ เพื่อให้สามารถเลือกซื้อรถเข็นจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานได้ ซึ่งทำให้ได้รถเข็นที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานอีกทั้งมีความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะที่จะช่วยให้งานทางการแพทย์มีศักยภาพมากขึ้นลองมาดูตัวอย่างของรถเข็นโรงพยาบาลแต่ละประเภทที่แต่ละโรงพยาบาลเลือกใช้มีลักษณะและมาตรฐานอย่างไรบ้าง ตัวอย่างประเภทของรถเข็นโรงพยาบาลรถเข็นคนไข้ เป็นประเภทรถเข็นที่โรงพยาบาลต้องมีเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยซึ่งมี 2 ลักษณะคือ รถเข็นคนไข้นั่ง และรถเข็นคนไข้นอน ซึ่งรถเข็นคนไข้ทั้ง 2 ประเภทควรเป็นไปตามมาตรฐานมอก.702-2551 เช่น มีโครงสร้างที่ทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม เหล็กชุบโครเมียม คุณภาพควรเป็นไปตามมาตรฐาน SUS 304 L, JIS G 4305, AISI 304 หรือเทียบเท่า และการวิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมีควรเป็นตาม ASTM E 353 หรือเทียบเท่า ล้อทั้ง 4 สามารถหมุนได้อิสระ แต่ล้อที่หมุนได้อิสระควรเป็นล้อยางตัน ระบบล็อคล้อที่ล้อคู่หน้าเพื่อหยุดรถมีกลไกที่สะดวกต่อการใช้งาน รถเข็นคนไข้ทั้ง 2 ประเภทต้องมีราวกั้นและมีระบบล็อค โครงสร้างและชิ้นส่วนต้องไม้เอียง ไม่โค้งงอ ไม่บิดตัว และไม่มีขอบคมยกเว้นเป็นการออกแบบไว้เพื่อใช้งานโดยเฉพาะ และควรมีช่องเสียบเสาแขวนอุปกรณ์ส่งผ่านของเหลวที่ช้ในทางการแพทย์ และรถเข็นคนไข้ควรติดรายละเอียดเพื่อแจ้งข้อมูลแก่ผู้ที่ต้องการซื้อ เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน รูปแบบ เดือนปีที่ผลิต ชื่อผู้ผลิตและโรงงานหรือแสดงเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนรถเข็นงานแพทย์เอนกประสงค์ ใช้ใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือยาเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ตัวอย่างของรถเข็นงานแพทย์เอนกประสงค์ โครงสร้างทั้งหมดผลิตจากสเตนเลสเกรด 304 ชนิดผิวเงา มีลิ้นชักออกแบบมาเป็นพิเศษจึงไม่มีมือจับ สามารถดึงขอบด้านล่างเพื่อเปิด-ปิดได้อย่างง่ายดาย รางลิ้นชักระบบ Soft Close เปิดปิดนุ่มนวล มีทั้งแบบ 2 และ 3 ชั้นและมีขอบเพื่อกันการตก ลูกล้อยางแบบเกลียวขนาด 4 นิ้วรถเข็นชาร์ต ใช้สำหรับวางเอกสารแฟ้มผู้ป่วย ตัวอย่างของรถเข็นชาร์ต โครงสร้างทั้งหมดทำจากสเตนเลสขัดเงาเกรด 304 ขนาด 1 นิ้ว หนา 1.5 ม.ม มี 3 ชั้น หนาไม่น้อยกว่า 1.2 ม.ม. พับขึ้นรูปมีขอบถาดสูงกั้นตกทุกชั้น มีราวจับสำหรับเข็นเคลื่อนที่ทั้ง 2 ด้าน ลูกล้อยางสีดำชนิดแป้นหมุนมีจำนวน 4 ล้อ ขนาดไม่น้อยกว่า 5 นิ้ว รับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กิโลกรัมรถเข็นฉีดยา ใช้สำหรับใส่อุปกรณ์ฉีดยารวมไปถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ที่สามารถให้การรักษาคนไข้ได้ ตัวอย่างของรถเข็นฉีดยา ผลิตจากสเตนเลสเกรด 304 มีลิ้นชักพร้อมมือจับหนาไม่น้อยกว่า 0.9 ม.ม สามารถดึงเปิด-ปิดได้สะดวก มีชั้นวาง 2-3 ชั้น มีความหนา 1.2 ม.ม มีราวกันตกทั้งสามด้านยกเว้นด้านที่มีลิ้นชัก มีที่สำหรับรัดขวดยา มีมือจับสำหรับเข็นรถมีความหนาไม่น้อยกว่า 1.2 ม.ม. ล้อลูกยาง 4 ล้อขนาดไม่น้อยกว่า 3 นิ้วหากมีการเชื่อมต่อต้องเรียบ เป็นรถเข็นที่ไม่ผ่านการใช้งานและมีการรับประกัน 1 ปีรถเข็นทำแผล เป็นรถเข็นที่ใช้เก็บอุปกรณ์ทำแผลและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับให้บริการผู้ป่วย ตัวอย่างของรถเข็นทำแผล โครงสร้างจะทำจากสเตนเลสเกรด 304 จะมีถังพร้อมฝาปิด,อ่างกลม 1 ใบ และถาดสเตนเลสพร้อมฝาปิด 1 ใบ โดนทั้งหมดจะมีห่วงใส่ยึดติดที่ขารถเข็นสามารถยกเข้า-ออกได้ ด้านบนจะเป็นพื้นที่เรียบ มีห่วงรัดน้ำยาและวางกระปุกสำลี มีลิ้นชักพร้อมมือจับ มีราวกันตกทั้งสองด้าน มีชั้นวางของประมาณ 2-3 ชั้นขึ้นอยู่กับความต้องการที่จะใช้งานมีที่จับสำหรับเข็นและมีล้อยางสีดำ 4 ล้อ ขนาดไม่น้อยกว่า 3 นิ้ว หากมีการเชื่อมต่อต้องเรียบสนิท เป็นรถเข็นที่ไม่ผ่านการใช้งาน มีการรับประกัน 1 ปีรายละเอียดของตัวอย่างรถเข็นโรงพยาบาลทั้ง 5 ประเภทเป็นรายละเอียดของรถเข็นที่มีข้อกำหนดตามกฎหมาย เช่น รถเข็นคนไข้มาตรฐานมอก. หรือเป็นรายละเอียดที่ทางโรงพยาบาลกำหนดมา เช่น รถเข็นงานแพทย์เอนกประสงค์, รถเข็นชาร์ต, รถเข็นฉีดยา และรถเข็นทำแผล ซึ่งอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป แต่รายละเอียดหลักยังคงเหมือนกันซึ่งเป็นข้อคำนึงที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่เลือกใช้เป็นกฎเกณฑ์ในการเลือกซื้อรถเข็นโรงพยาบาลเพื่อให้การใช้งานรถเข็นปลอดภัยและมีมาตรฐานมากที่สุด Jenstore by Jenbunjerd เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์รถเข็นโรงพยาบาล เช่น รถเข็นสเตนเลสสำหรับงานแพทย์, รถเข็นทำแผล, รถเข็นฉีดยา รวมทั้งรับทํารถเข็นตามแบบที่ผลิตจากสเตนเลส และรับจัดหาสินค้าให้ตรงตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ มีบริการหลังการขายและรับประกันคุณภาพสินค้าให้คุณมั่นใจในการเลือกใช้สินค้าของเรา ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected]บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถเข็นคุณภาพพรีเมียมที่มาพร้อมกับมาตรฐานการผลิต

รถเข็นคุณภาพพรีเมียมที่มาพร้อมกับมาตรฐานการผลิต รถเข็นที่มีมาตรฐานเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน รถเข็นเป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมหลายประเภทด้วยประโยชน์ของรถเข็นที่มีผลดีต่อการดำเนินธุรกิจเป็นทั้งเครื่องมือที่ใช้ในการทุ่นแรงและเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีจำนวนและมีน้ำหนักมาก รถเข็นที่มีการใช้งานในอุตสาหรรมต่าง ๆ ก็มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น การใช้งานรถเข็นในพื้นที่เปียกชื้น หรือการใช้งานรถเข็นในพื้นที่ที่มีสารเคมี จึงทำให้ต้องมีการเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานเพื่อรองรับการใช้งานและส่งเสริมคุณสมบัติของรถเข็นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นของรถเข็นที่ต้องรองรับสิ่งของหรือสินค้าที่ต้องขนย้ายรวมไปทั้งต้องทนทานต่อพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติงานด้วยเช่นกัน วัสดุที่นิยมใช้ในการผลิตพื้นรถเข็นมีทั้งเหล็ก สเตนเลส และพลาสติกซึ่งวัสดุดังกล่าวก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปตามคุณสมบัติของวัสดุ ซึ่งหากใช้พื้นรถเข็นที่ผลิตจากวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรถเข็นอีกทั้งยังช่วยยืดอายุของรถเข็นให้มีการใช้งานที่ยาวนานขึ้น   พื้นรถเข็นที่ผลิตจากเหล็ก ส่วนใหญ่มักนำมาใช้ในการขนย้ายสิ่งของสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือปริมาณมาก ๆ เนื่องจากเหล็กเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง และมีความทนทานสูง พื้นรถเข็นที่ผลิตจากสเตนเลส เพราะสเตนเลสเป็นโลหะที่ผสมระหว่างเหล็ก คาร์บอน และโครเมียม จึงมีความสามารถในการทนต่อการกัดกร่อนได้สูง และเป็นสนิมได้ยาก จึงเหมาะกับการใช้งานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือความเปียกชื้น พื้นรถเข็นที่ผลิตจากพลาสติก พลาสติกจะมีน้ำหนักที่เบา แต่จะมีความแข็งแรง คงทน สามารถทนต่อความร้อนและความเย็นโดยไม่มีการแตกร้าวและเปราะ ทั้งยังทนทานต่อการกัดกร่อนและความชื้น จึงเหมาะสำหรับงานที่สัมผัสความชื้น สารเคมี กรดด่าง รวมไปถึงการขนย้ายสิ่งของหรือสินค้าที่มีน้ำหนักไม่มาก มาตรฐานของวัสดุที่นำมาผลิตก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเพราะเป็นเครื่องชี้วัดถึงประสิทธิภาพของวัสดุที่จะนำมาใช้งานเช่น เหล็กและสเตนเลสในประเทศไทยจะมีมาตรฐานมาตรฐานมอก.(TIS) ในส่วนของพลาสติกจะมีการแบ่งเกรดของพลาสติกตามความบริสุทธิ์ของพลาสติกยิ่งพลาสติกมีความบริสุทธิ์มากเท่าไรยิ่งมีความแข็งแรงและทนทานมากยิ่งขึ้น นอกจากมาตรฐานของวัสดุแล้วมาตรฐานการผลิตก็เป็นอีกส่วนที่สำคัญที่จะทำให้รถเข็นมีคุณภาพและประสิทธิภาพหากมีวัสดุที่ดีแต่กระบวนการผลิตไม่มีมาตรฐานอาจส่งผลให้ได้รถเข็นที่มีคุณภาพต่ำและมีอันตรายต่อการนำไปใช้งาน ISO คือองค์กรระหว่างประเทศที่ออกมาตรฐานต่าง ๆ ของธุรกิจและอุตสาหกรรมเกี่ยวกับระบบการบริหารเพื่อให้สินค้ามีคุณภาพเท่ากันทั่วโลก รถเข็น JUMBO รถเข็นแบรนด์คุณภาพสัญชาติไทย แบรนด์ JUMBO เป็นแบรนด์รถเข็นสัญชาติไทยที่ก่อตั้งมานานกว่า 30 ปีจึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพและมาตรฐานของรถเข็น ซึ่งมีความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัสดุ การออกแบบ ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานและรถเข็น JUMBO ยังมีรถเข็นหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในหลายอุตสาหกรรม นอกจากนี้รถเข็น JUMBO ยังมีการส่งออกไปกว่า 30 ประเทศทั่วโลกและยังได้รับมาตรฐานระดับโลก มาตรฐานรถเข็น JUMBO แบรนด์รถเข็นคุณภาพระดับพรีเมียมของไทย   ได้รับมาตรฐานการจัดการคุณภาพ ISO 9001:2000 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ เป็นมาตรฐานที่สะท้อนถึงคุณภาพของสินค้า เพราะ ISO 9001 : 2000 เป็นมาตรฐานของระบบบริหารงานในขั้นตอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การพัฒนา การผลิต และการบริการ โดยผ่านขั้นตอนและวิธีการทำงานที่มีเอกสารบันทึกไว้เป็นมาตรฐาน เพื่อให้มั่นในว่าบุคลากรมีความรู้และสามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ โดยสามารถตรวจสอบการทำงานได้ในทุกขั้นตอน จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพของรถเข็น JUMBO ทุกคันที่ผลิตจากโรงงานเพราะผลิตจากกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ได้รับ Thailand Best เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่ารถเข็น JUMBO เป็นรถเข็นที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานซึ่งสัญลักษณ์ดังกล่าวได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้รับ Thailand's Brand จากสำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการส่งออกกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ การันตีคุณภาพรถเข็น JUMBO ในระดับประเทศและนานาชาติ ได้รับ Thailand Trust Mark รถเข็น JUMBO ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ "Thailand Trust Mark" ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทย ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความไว้วางใจและมั่นใจได้ในรถเข็นคุณภาพระดับพรีเมียมของไทย   ความโดดเด่นของรถเข็น JUMBO ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการใช้งาน   รถเข็น JUMBO มีการพัฒนาการออกแบบรถเข็น JUMBO เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายทั้งการใช้งานในคลังสินค้า หรือในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ รถเข็น JUMBO เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงจึงมีอายุการใช้งานยาวนาน คุ้มราคาและคุ้มค่าในการลงทุน รถเข็น JUMBO แบบพื้นเหล็กผลิตจากเหล็กเกรดสำหรับยานยนต์ จึงมีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักในการบรรทุกได้เต็มพิกัดโดยแผ่นพื้นไม่โก่งตัว โครงสร้างของรถเข็นผลิตจากเหล็กที่แข็งแรงและพ่นด้วยสีฝุ่นอะคริลิกชนิด HYRRID อบความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศา จึงทนต่อการขีดข่วนได้ดี แผ่นพื้นรถเข็นเสริมคานเหล็กคู่ รองรับน้ำหนักทุกจุด รถเข็น JUMBO เพิ่มประสิทธิภาพของแผ่นพื้นรถเข็นด้วยเทคโนโลยีปั๊มขึ้นรูปโลหะที่ทันสมัย ช่วยทำให้ล้อรถเข็นตั้งตรงเพิ่มความแข็งแรงและทนทานมากยิ่งขึ้น รับน้ำหนักของสินค้าได้มากขึ้นแต่น้ำหนักของรถเข็นเบาลง รถเข็น JUMBO มีความคล่องตัวและเบาแรงขณะเข็น ทำให้ไม่เกิดรอยบนพื้นด้วยลูกล้อคุณภาพสูง ข้อพับของรถเข็น JUMBO ผลิตด้วยชิ้นเหล็กหนากว่าเหล็กทั่วไปในท้องตลาด มือจับจึงไม่โยกไม่คลอนได้ง่าย ติดตั้งขอบยางกันกระแทกโดยรอบพื้นรถเข็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน รถเข็น JUMBO พื้นสเตนเลสทนต่อการกัดกร่อนและไม่เป็นสนิมเหมาะกับงานบริการที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือความเปียกชื้น รถเข็น JUMBO พื้นพลาสติกผลิตจากพลาสติกเกรดเอฉีดขึ้นรูปมีลายกันลื่น น้ำหนักเบา แข็งแรงเหมาะสำหรับงานที่สัมผัสความชื้น และทนต่อสารเคมี กรดด่าง มีการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย รถเข็น JUMBO เป็นรถเข็นสัญชาติไทยที่มีคุณภาพระดับพรีเมียมและมีมาตรฐานระดับสากลที่ผลิตและจำหน่ายโดย บริษัท เจนบรรเจิด จำกัดที่เป็นผู้นำด้านการผลิต จำหน่ายและส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้ายที่ประสบการณ์กว่า 40 ปี รถเข็น JUMBO มีจำหน่ายรถเข็นหลายประเภทและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานจากหลายอุตสากรรม เช่น โรงงาน, คลังสินค้า, โรงพยาบาล, โรงแรมหรือธุรกิจบริการอื่น ๆ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
เจนบรรเจิด ชื่อนี้การันตีแบรนด์สินค้าคุณภาพกับความคุ้มค่าของอุตสาหกรรม

เจนบรรเจิด ชื่อนี้การันตีแบรนด์สินค้าคุณภาพกับความคุ้มค่าของอุตสาหกรรม เจนบรรเจิดจำหน่าย รถยกไฟฟ้า, กล่องพลาสติก และหมวกนิรภัย คุณภาพสูง ในทุกอุตสาหกรรมจะต้องมีอุปกรณ์หลากหลายชนิดเพื่อใช้ในกระบวนการทำงานต่าง ๆ สำหรับส่งเสริมศักยภาพและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน อาทิ รถแฮนด์ลิฟท์, รถยกไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนย้ายหรือยกวัตถุดิบหรือสินค้าเพื่อนำไปใช้งาน จัดเก็บ หรือขนส่ง หมวกนิรภัย, แว่นตานิรภัย, รองเท้าเชฟตี้ เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับพนักงานที่ต้องปฎิบัติงาน ด้วยลักษณะการใช้งานดังกล่าวที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าและพนักงานการเลือกสรรในการใช้อุปกรณ์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก อุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมควรเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานเพื่อเป็นการรับรองประสิทธิภาพที่จะได้รับจากการใช้งานที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจในภาพรวมได้ และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ภาครัฐได้มีการกำหนดไว้ เจนบรรเจิดเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แบบครบวงจรทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เจนบรรเจิดมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการในการใช้งานมากที่สุดจากทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากกว่า 3 ทศวรรษที่จะคอยให้คำปรึกษา โดยเฉพาะอุปกรณ์ในการจัดเก็บและยก-ย้าย เช่น รถยกสูง, รถลากพาเลท, รถยกลาก, โต๊ะยกปรับระดับ อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บสินค้า เช่น กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ลังอเนกประสงค์ และชั้นวางสินค้า เป็นอุปกรณ์ประเภทแรกที่เจนบรรเจิดเริ่มจำหน่ายและส่งออก รวมไปถึงมีการผลิตอุปกรณ์ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่อุปกรณ์เคลื่อนย้ายและจัดเก็บแต่เริ่มมีการจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งมีหลากหลายประเภท จนปัจจุบันเรียกได้ว่าเจนบรรเจิดมีอุปกรณ์ที่ครบครันในการใช้งานตอบโจทย์ทุกความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างครบครันอุปกรณ์เคลื่อนย้ายมั่นใจได้ถึงคุณภาพในระดับเกรดพรีเมี่ยม รถยกไฟฟ้า, รถลากพาเลท, โต๊ะยกปรับระดับ, รถเข็นประเภทต่าง ๆ เป็นอุปกรณ์เคลื่อนย้ายที่มักนำมาใช้ในคลังสินค้าหรือโลจิสติกส์ ซึ่งรวมไปถึงการใช้งานในกระบวนการต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม อุปกรณ์เคลื่อนย้ายเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ขับเคลื่อนในกระบวนการจัดเก็บและขนส่งสินค้า เป็นกระบวนที่ต้องมีความรวดเร็วเพื่อให้ทันต่อการจัดส่งสินค้าไปยังปลายทาง ซึ่งสินค้าที่มีการเคลื่อนย้ายในแต่ละวันมีจำนวนและน้ำหนักที่มาก รถลากพาเลท, รถยกสินค้า, โต๊ะยกปรับระดับ และรถเข็นประเภทต่างๆ จึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพันกิโลกรัมทั้งในการยก-ย้ายและใช้เวลาน้อยในการเคลื่อนย้ายทำให้รอบในการขนย้ายสินค้าในแต่ละวันเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การหมุนเวียนสินค้าในคลังสินค้าเร็วตามขึ้นไปด้วย อีกทั้งยังเป็นเครื่องทุ่นแรงของพนักงานช่วยลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บจากการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งเจนบรรเจิดได้เป็นผู้ผลิตรถเข็น, รถแฮนด์ลิฟท์, รถลากพาเลท, รถยกถังน้ำมัน, โต๊ะยกปรับระดับ, รถยกไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Jumbo ซึ่งเป็นแบรนด์คุณภาพที่มีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาให้ใช้ตรา “Thailand Trust Mark” ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลไทย ผ่านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นการรับรองถึงคุณภาพของแบรนด์ Jumbo ที่ถูกยกระดับเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมของไทย โดยผลิตจากเหล็กเกรดสำหรับยานยนต์ ที่มีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้มากโดยแผ่นพื้นไม่โก่งตัวและมีความคล่องตัวในการเคลื่อน ย้าย อุปกรณ์จัดเก็บมั่นใจได้ในความคงทนในการใช้งานที่ยาวนาน กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ถังพลาสติก, ชั้นวางสินค้า และพาเลทสินค้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บสินค้าเพื่อรักษาสภาพและคุณภาพของสินค้าให้สมบูรณ์รวมไปถึงความปลอดภัยทั้งในการจัดเก็บและการขนย้าย ซึ่งกล่องพลาสติก และลังพลาสติก มีหลายประเภทให้เลือกใช้งานเหมาะในการแยกสินค้าให้เป็นหมวดหมู่มีทั้งแบบมีฝาปิดและไม่มีฝา หรือมีฝาเปิดด้านข้างเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอีกทั้งยังสามารถซ้อนกันได้หรือพับเก็บได้เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บถึง 75% ในส่วนของถังพลาสติกมีทั้งประเภทใช้งานทั่วไป ใช้งานกับสารเคมีทั้งแบบผงและของเหลว หรือจะเป็นถังเก็บความเย็นเพื่อแช่ของสดซึ่งรักษาความเย็นยาวนานได้ถึง 2 วัน พาเลทพลาสติกใช้สำหรับวางสินค้าเพื่อขนย้าย ขนส่ง หรือจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า มีหลายขนาดและใช้งานคู่กับรถยกเพื่อเคลื่อนย้ายสินค้า กล่องพลาสติก ลังพลาสติก ถังพลาสติก และพาเลทพลาสติก ผลิตจากพลาสติกเกรด A ไม่มีกลิ่นฉุน อีกทั้งมีความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน นอกจากนั้นการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้ายังมีอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าให้มากขึ้นนั้นก็คือ ชั้นวางสินค้า ชั้นวางสินค้าจากเจนบรรเจิดเป็นชั้นวางสินค้าคุณภาพพรีเมี่ยมจากแบรนด์ Eiffle ที่นำเข้าจากต่างประเทศมีดีไซน์ที่สวยงาม ผลิตจากเหล็กขึ้นรูปวางสินค้าได้ตามพิกัด คาดยึดชั้นมีความแข็งแรง พ่นด้วยสี Epoxy ช่วยเสริมให้ชั้นวางสินค้ามีความทนทานต่อ กรด-ด่าง สารเคมี และน้ำมันได้ดี เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นที่ช่วยป้องกันการสึกหรอของเหล็กได้อุปกรณ์ความปลอดภัยมั่นใจได้ในมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งาน หมวกนิรภัย, แว่นตานิรภัย, ถุงมือนิรภัย หรือรองเท้าเซฟตี้ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันอันตราย หรือช่วยลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ต้องใช้ในการทำงานนั้นจะมีอยู่หลากหลายชนิดให้เลือกใช้งานเพื่อให้สามารถป้องกันอันตรายได้อย่างครอบคลุม เช่น หมวกนิรภัยมีทั้งชนิดป้องกันกระแสไฟฟ้าและความร้อน ถุงมือนิรภัยมีทั้งแบบถุงมือกันความร้อน, ถุงมือกันไฟฟ้า และถุงมือกันสารเคมี รองเท้าเชฟตี้ก็มีชนิดป้องกันกระแสไฟฟ้า, ป้องกันความร้อน, ป้องกันสารเคมี ป้องกันการเจาะทะลุ และป้องกันการลื่น และแว่นตานิรภัยจะมีสีเลนส์ของแว่นตาที่แตกต่างกันซึ่งการใช้งานก็ต่างกันเช่น เลนส์ใสใช้เพื่อป้องกันการกระเด็นของเศษวัสดุ เลนส์สีเพื่อใช้ในการกรองแสง ซึ่งอุปกรณ์ความปลอดภัยทุกประเภทที่เจนบรรเจิดนำมาจำหน่ายได้รับมาตรฐานในระดับสากล เช่น หมวกนิรภัยได้รับมาตรฐาน ANSI/ISEA Z89.1-2009, ถุงมือกันไฟฟ้าได้รับมาตรฐาน EN60903:2003, CE0194, NFPA 70E และ ASTM F2413-11 แว่นตานิรภัยได้รับมาตรฐาน ANSI Z87.1-2000 และรองเท้าเชฟตี้ได้รับมอก.523-2554 เพื่อเป็นการยืนยันถึงคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ในการผลิตและความปลอดภัยจากการทดสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนดนอกเหนือจากประเภทของอุปกรณ์ที่กล่าวมา เจนบรรเจิดยังมีจำหน่ายอุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์ช่าง กล่องอะไหล่, ตู้เก็บเครื่องมือช่าง, แผงแขวนเครื่องมือช่างที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์ TOOLMAX และ FLEXI , ลูกล้ออุตสาหกรรมจำหน่ายภายใต้แบรนด์ SUPO ที่มีคุณภาพสูงนำเข้าจากต่างประเทศที่ใช้ระบบ Ball Bearing เป็นพื้นฐานช่วยให้ล้อมีประสิทธิภาพสูงในการออกตัวและผ่อนแรง, อุปกรณ์หีบห่อ เช่น ฟิล์มยืดพันพาเลท, พลาสติกกันกระแทก, เทปกาว ที่มีคุณภาพ มีความทนทาน และได้รับมาตรฐานระดับสากล และยังมีอุปกรณ์ที่ใช้ในสำนักงาน, อุปกรณ์งานอาคารสถานที่, อุปกรณ์ความสะอาดและสุขอนามัย อุปกรณ์ธุรกิจและอาหาร นอกจากนั้นเจนบรรเจิดยังรับผลิตงานรถเข็นและโต๊ะที่สั่งทำตามแบบที่ผลิตจากเหล็กและอะลูมิเนียม ณ ปัจจุบันจึงสามารถกล่าวได้ว่าเจนบรรเจิดจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แบบครบวงจรภายใต้แบรนด์คุณภาพสูงและมาตรฐานในระดับสากล ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
5ส กลยุทธ์แบบง่าย ๆ สร้างวัฒนธรรมองค์กรสู่ Zero Accident

5ส กลยุทธ์แบบง่าย ๆ สร้างวัฒนธรรมองค์กรสู่ Zero Accident กล่องพลาสติกและชั้นวางของอเนกประสงค์อุปกรณ์เพิ่มความสะดวกใน 5ส โรงงานอุตสาหกรรมเป็นพื้นที่ปฏิบัติงานที่มีความสำคัญเพราะส่วนใหญ่เป็นแหล่งในการผลิตสินค้าและบางครั้งก็เป็นคลังสินค้าในการกระจายสินค้าด้วยเช่นกันทำให้ในโรงงานอุตสาหกรรมมีเครื่องจักร เครื่องมือ วัตถุดิบที่เป็นอันตราย หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานที่อาจเกิดอุบัติเหตุส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ โรงงานอุตสาหกรรมจึงต้องมีอุปกรณ์ความปลอดภัยจัดเตรียมไว้เสมอเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น การตกหล่นของวัตถุที่มีน้ำหนักที่อาจโดยศีรษะหรือบริเวณเท้า หมวกนิรภัยและรองเท้าเชฟตี้จะเป็นตัวช่วยป้องกันอันตรายได้ งานเชื่อมโลหะที่มีอันตรายทั้งจากความร้อนในการเผาไหม้และพลังงานรังสี ถุงมือกันความร้อนและแว่นตานิรภัยจึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องสวมใส่เมื่อปฏิบัติงานทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บ โรงงานอุตสาหกรรมจึงต้องหาวิธีในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงานเเพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดการทำงานที่หยุดชะงัก รวมไปถึงลดการสูญเสียทั้งแรงงาน เวลา และไม่ส่งผลกระทบถึงความพึงพอใจของลูกค้า Zero Accident อุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ เป็นหนึ่งในเป้าหมายของโรงงานอุตสาหกรรมโดยต้องการปลูกฝังจิตสำนักของผู้ปฏิบัติงานให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอันตรายและหาวิธีป้องกัน หลังจากนั้นวิเคราะห์สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดเพื่อหาวิธีการแก้ไข ซึ่งการทำให้โรงงานอุตสาหกรรมเป็น Zero Accident ไม่ใช่แค่ความพร้อมในการปฏิบัติงานเท่านั้นแต่สภาพแวดล้อมภายในโรงงานก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เช่น ความร้อนภายในโรงงานอุตสาหกรรมต้องแก้ไขด้วยการติดตั้งพัดลมอุตสาหกรรมเพื่อระบายความร้อน ความสว่างภายในโรงงานอุตสาหกรรมหากมีแสงสว่างไม่เพียงพอก็ควรติดตั้งหลอดไฟเพิ่มเพื่อให้สามารถปฎิบัติงานได้ ความดังของเสียงหากมีมากเกินไปต้องเตรียมที่ครอบหูกันเสียงเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงทำลายอวัยวะภายในของหู อากาศภายในโรงงานอุตสาหกรรมมีการปะปนของ ฝุ่นขนาดเล็ก, ละออง, ไอระเหย ฟูม หรือสารเคมีในปริมาณเข้มข้นควรจำกัดสารอันตรายเหล่านั้นโดยอาจจัดเตรียมถังขยะอันตราย หรือหน้ากากกันสารเคมี เพื่อป้องกันสุขภาพร่างกายของพนักงาน ดังนั้นโรงงานจึงต้องวางระบบและสร้างการเรียนรู้ให้กับพนักงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงหลักการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยที่พนักงานควรต้องปฏิบัติตาม 5 ส กิจกรรมง่ายๆ สู่การเป็น Zero Accident เป็นกิจกรรมที่จัดระเบียบของสภาพแวดล้อมของการทำงานผ่าน 5 กิจกรรม คือ สะสาง, สะดวก, สะอาด, สุขลักษณะ, สร้างนิสัย ซึ่งกิจกรรม 5 ส ที่สามารถนำมาใช้ได้ในทุกกระบวนการทำงานไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต, การขนส่ง, การบริการ หรือสำนักงาน กิจกรรม 5 ส เป็นพื้นฐานของการบริหารที่นำไปสู่พื้นฐานความปลอดภัยในการทำงานและการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นโดยผ่านการกระทำอย่างซ้ำ ๆ และต่อเนื่องจนเกิดเป็นกิจวัตรที่ต้องทำประจำจนกลายเป็นนิสัยติดตัวไป ส 1 สะสาง เป็นการกำจัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไปโดยทำการสำรวจสิ่งของ, อุปกรณ์, หรือเศษวัสดุต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานหรือไม่จำเป็นให้คัดแยกออกมา เพื่อจัดประเภทระหว่างของที่จำเป็นที่ต้องใช้งาน และของที่ไม่จำเป็นที่สามารถกำจัดทิ้งได้ โดยหากเป็นสิ่งของที่จำเป็นต่อการใช้งาน เช่น เอกสารบัญชี-การเงิน, เอกสารสัญญาต่างๆ หรือวัตถุดิบในกระบวนการผลิต อาจจัดเตรียมกล่องพลาสติก, ลังพลาสติก หรือถังพลาสติก เพื่อจัดเก็บแต่หากเป็นสารเคมี หรือสารอันตรายควรคัดแยกประเภทของสารเคมีก่อนจัดเก็บ เช่น สารไวไฟ สารออกซิไดซ์ สารระเบิดได้ สารเคมีที่เข้ากันไม่ได้ เพื่อจะได้แยกจัดเก็บได้อย่างถูกต้อง สารเคมีควรจัดเก็บไว้ในตู้เก็บสารเคมีโดยเฉพาะเพื่อป้องกันสารเคมีออกมาปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม หรือทำปฏิกริยาภายนอกทำให้เกิดการระเบิดได้ ซึ่งหากต้องสะสาง สารเคมี หรือวัตถุอันตราย ควรสวมใส่อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ชุดป้องกันสารเคมี หน้ากากป้องกันสารเคมี ถุงมือป้องกันสารเคมี หรือรองเท้าเซฟตี้ ที่ป้องกันสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย สำหรับกลุ่มสิ่งของที่ไม่ได้ใช้งานก็ควรกำจัดโดยรวบรวมใส่ถุงขยะและแยกประเภทของขยะเพื่อทิ้งในถังขยะแยกประเภท เช่น ถังขยะทั่วไป, ถังขยะรีไซเคิล, ถังขยะอันตราย เพื่อจะได้นำไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี ส 2 สะดวก เป็นการจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้สะดวกในการใช้งานซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น และยังสร้างความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น การป้องกันการตกหล่นของสิ่งของ หรือการหยิบใช้งานที่ผิดประเภท โดยสามารถจัดเรียงสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้โดยใช้ชั้นวางของอเนกประสงค์หรือชั้นเก็บของเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บกล่องพลาสติก หรือลังพลาสติกที่ได้มีการใส่สิ่งของที่คัดแยกเรียบร้อยแล้วและติดป้ายกำกับไว้ที่ชั้นวางของอเนกประสงค์หรือชั้นเก็บของเพื่อแยกหมวดหมู่ของสิ่งของ โดยควรจัดเก็บสิ่งของที่ใช้บ่อย ๆ ให้อยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวกในการหยิบใช้งาน หากสิ่งของเป็นเอกสารก็ควรจัดเก็บในตู้เก็บเอกสารเหล็กเพื่อให้สะดวกในการหยิบใช้งาน และเพื่อป้องกันฝุ่น หรือแมลงที่เข้ามากัดแทะเอกสารได้ หากเป็นสารเคมีควรจัดเก็บให้ห่างจากแสงแดด ไม่ควรสูงกว่าระดับสายตา ไม่ควรวางขวดสารเคมีซ้อนกันตามแนวตั้ง และหากต้องวางสารเคมีไว้บนพื้นควรรองด้วยถาดรองสารเคมีไม่ควรวางบนพื้นโดยตรงและควรจัดพื้นที่สำหรับวางสารเคมีในพื้นที่เฉพาะไม่ควรวางบนทางเดิน ส3 สะอาด เป็นการทำความสะอาดสถานที่ สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องจักร เพื่อเป็นการบำรุงรักษาและตรวจสอบสภาพการใช้งาน ซึ่งการทำความสะอาดควรกำหนดพื้นที่ความรับผิดชอบเพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง โดยอาจแบ่งพื้นที่ให้แต่ละแผนกดูแลและทำความสะอาด ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดในแต่ละแผนก เช่น สเปรย์แอลกอฮอล์, ผ้าทำความสะอาด, ถังขยะ, ถังม็อบถูพื้น แต่ถ้าหากพื้นทีมีขนาดใหญ่ควรใช้เครื่องกวาดพื้นในการทำความสะอาดเพื่อจะได้ทุ่นแรงในการทำความสะอาด และแผนกที่ดูแลทำความสะอาดเครื่องจักรควรเตรียมเครื่องมือช่างเผื่อต้องมีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรเพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน สำหรับการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีสารเคมีควรสวมชุดป้องกันสารเคมี หน้ากากป้องกันสารเคมี ถุงมือป้องกันสารเคมี หรือรองเท้าเซฟตี้ และควรมีป้ายติดเตือนว่าเป็นพื้นที่อันตรายเพื่อป้องกันพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ ส4 สุขลักษณะ เป็นการปฏิบัติหลัก 3ส สะสาง สะดวก และสะอาดให้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติและรักษามาตรฐานของการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องโดยอาจกำหนดให้การทำกิจกรรมทั้ง 3ส ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ควรจัดเตรียมอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อไว้ทำความสะอาดระหว่างสัปดาห์ หากพบเห็นสิ่งสกปรก ความไม่เป็นระเบียบที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น ถังขยะ, สเปรย์แอลกอฮอล์, ผ้าเช็ดทำความสะอาด, ถังม็อบถูพื้น จะใด้กำจัดทันที และในการทำกิจกรรม 5ส ควรมีคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบความสะอาดของพื้นที่ และอุปกรณ์จากการทำ 5ส ว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานหรือไม่ ส5 สร้างนิสัย เป็นหลักการปฏิบัติที่มาจากการทำทั้ง 4ส อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องเป็นเวลานานแต่หากต้องการปลูกฝังจนเป็นนิสัยอาจเพิ่มความถี่ในการทำ 5ส มากขึ้น เช่น ทำความสะอาดโต๊ะ หรือพื้นที่ทำงานทุกเช้าก่อนเริ่มงาน ประมาณ 5 นาที และให้ความรู้เพิ่มเติมในการทำงาน 5ส ที่มีความเฉพาะมากขึ้น เช่น พื้นที่ที่มีสารเคมี หรือกระแสไฟฟ้าควรสวมใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยทุกครั้ง เช่น ชุดป้องกันสารเคมี, หน้ากากกันสารเคมี, ถุงมือกันไฟฟ้า, รองเท้าเซฟตี้ เพื่อความปลอดภัยในการทำกิจกรรม 5ส การจัดเก็บหรือทำความสะอาดอย่างถูกวิธีสำหรับสารเคมี หรือวัตถุอันตราย ซึ่งจะช่วยให้การทำกิจกรรม 5ส มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อกระตุ้นให้มีการทำกิจกรรม 5ส อย่างต่อเนื่อง ควรมีการจัดประกวดกิจกรรม 5ส ดีเด่น สำหรับแผนกต่าง ๆ ที่ทำกิจกรรม 5ส พร้อมมีรางวัลให้สำหรับผู้ทำกิจกรรม 5ส ได้ดีที่สุดสามารถทำได้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์และมีการปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นแรงจูงในการทำกิจกรรม 5ส ต่อไป กิจกรรม 5ส เป็นกิจกรรมที่มุ่งกำจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการทำงานเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยต่อพนักงาน การทำกิจกรรม 5ส อย่างต่อเนื่องและถูกต้องตามหลักเกณฑ์เป็นบันไดที่ก้าวไปสู่ Zero Accident เพราะกิจกรรม 5ส ช่วยให้สภาพแวดล้อมในการทำงานดีขึ้น มีความปลอดภัยและสะดวกในการทำงานลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งการทำกิจกรรม 5ส นอกจากการใช้ความร่วมมือของพนักงานทุกคนแล้วอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใชในการทำปฏิบัติงาน เช่น อุปกรณ์ความปลอดภัย, ถังขยะแยกประเภท, กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ชั้นวางของอเนกประสงค์ อุปกรณ์เหล่านี้ก็เป็นตัวช่วยที่สำคัญที่ทำให้กิจกรรม 5ส สัมฤทธ์ผลส่งผลให้อุบัติเหตุในการทำงานกลายเป็นศูนย์ได้ไม่ยาก Jenstore by Jenbunjerd จำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทุกชนิดทั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย ชุดป้องกันสารเคมี, หน้ากากกันสารเคมี, ถุงมือกันไฟฟ้า, รองเท้าเซฟตี้ อุปกรณ์จัดเก็บ กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ชั้นวางของอเนกประสงค์, ตู้เก็บเอกสาร อุปกรณ์ทำความสะอาด เครื่องกวาดพื้น, ถังม็อบถูพื้น, ถังขยะแยกประเภท ที่มีมาตรฐานและคุณภาพดี พร้อมยินดีให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถเข็นคุณภาพ รถเข็นแบรนด์ JUMBO ผู้นำรถเข็นไทย

รถเข็นคุณภาพ รถเข็นแบรนด์ JUMBO ผู้นำรถเข็นไทย รถเข็นพับได้ รถเข็นอเนกประสงค์ คุณภาพสูงมาตรฐานระดับพรีเมี่ยม รถเข็น เป็นเครื่องมือที่มีทั้งแบบ รถเข็น 2 ล้อและรถเข็น 4 ล้อที่แฝงไปด้วยความแข็งแรง และทนทานมีหน้าที่สำคัญในการขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากให้กลายเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังช่วยให้กระบวนการทำงานมีความรวดเร็วทันต่อการแข่งขันในตลาด ดังนั้นในหลายอุตสาหกรรมจึงต้องมีรถเข็นเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานเพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในคลังสินค้าที่เป็นทั้งพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าและกระจายสินค้าไปยังปลายทาง มีการเคลื่อนย้ายสินค้าตลอดเวลา ซึ่งรถเข็นเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยทุ่นแรงให้การขนย้ายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการยกของหนักอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บ และสินค้าได้รับความเสียหายจากการตกหล่นส่งผลให้เกิดการสูญเปล่าที่ไม่จำเป็น แต่การเลือกใช้งานรถเข็นที่มีประสิทธิภาพควรเลือกใช้งานรถเข็นให้ถูกประเภทกับประเภทของอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์, อุตสาหกรรมน้ำมัน ก็มีการใช้งานรถเข็นที่มีลักษณะแตกต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่จะมีรถเข็นประเภทหนึ่งเป็นที่นิยมเพราะใช้งานได้ง่ายและสามารถใช้งานได้หลายประเภทอุตสาหกรรมนั้นก็คือรถเข็นอเนกประสงค์ เป็นรถเข็นที่มีขนาดไม่ใหญ่แต่สามารถขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมได้ ทุ่นแรงในการขนย้ายได้เป็นอย่างดี แต่หากต้องการความสะดวก และความคล่องตัวต้องเลือกใช้รถเข็นพับได้ที่ง่ายต่อการพกพาและง่ายต่อการนำไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ด้วยหน้าที่ของรถเข็นทำให้การเลือกซื้อรถเข็นต้องเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือเพราะหากใช้รถเข็นที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิดได้   รถเข็น JUMBO ผู้นำด้านรถเข็นแบรนด์ชั้นนำสัญชาติไทย รถเข็น JUMBO เป็นแบรนด์รถเข็นที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ผลิตรถเข็นด้วยวัสดุคุณภาพสูงภายใต้กระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน จึงทำให้รถเข็น JUMBO มีทั้งความแข็งแรงและทนทาน คุณภาพคุ้มกับราคา และคำนึงถึงประสิทธิภาพในการใช้งาน ภายใต้แบรนด์ JUMBO มีรถเข็นอเนกประสงค์ และรถเข็นพับได้ซึ่งรถเข็นทั้ง 2 ประเภทมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน   รถเข็นอเนกประสงค์ เป็นรถเข็น 4 ล้อที่มีพื้นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมโดยจะเชื่อมต่อกับด้ามจับซึ่งมีทั้งด้ามจับแบบเดี่ยวและแบบคู่ ใช้ในการขนย้ายสินค้าหรือสิ่งของทั่วไป สามารถรองรับน้ำหนักได้หลายร้อยกิโลกรัมพร้อมกับเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นการทำงานที่ยกระดับประสิทธิภาพของรถเข็นให้เพิ่มมากขึ้น รถเข็นอเนกประสงค์ JUMBO มีด้วยกัน 4 ประเภทด้วยกัน 1.1 รถเข็นอเนกประสงค์พื้นเหล็ก รถเข็นพื้นเหล็กเหมาะสำหรับงานที่ต้องการขนย้ายที่มีน้ำหนักมาก ๆ แต่ไม่เกินพิกัดของรถเข็น ตัวรถเข็นจะพ่นด้วยสีฝุ่นอะคลิลิกชนิด Hyrrid อบความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศา จึงทนต่อการขีดข่วนได้ดี เพิ่มความแข็งแรงของพื้นรถเข็นด้วยการเสริมคานเหล็กคู่เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ทุกจุด และปูทับด้วยแผ่นพีวีซีกันลื่นคุณภาพดี เสริมประสิทธิภาพการใช้งานด้วยแผ่นเหล็กข้อพับที่หนากว่าเหล็กทั่วไปในท้องตลาด ช่วยให้มือจับไม่โยกได้ง่ายและใช้เทคโนโลยีปั๊มขึ้นรูปโลหะเพื่อให้รับน้ำหนักในการขนย้ายได้มากขึ้น ป้องกันการกระแทกด้วยการติดตั้งขอบยางกันชนโดยรอบ บางรุ่นจะมีแผงแขวนบริเวณมือจับเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นในการใช้งาน และระบบเบรกมือแบบ Deadman รถเข็นจะหยุดทันทีเมื่อปล่อยมือจากเบรกป้องกันไม่ให้รถเข็นเคลื่อนที่เองขณะจอดบนพื้นที่ลาดเอียง บางรุ่นมือจับพับเก็บได้1.2 รถเข็นอเนกประสงค์พื้นสเตนเลส รถเข็นพื้นสเตนเลสเหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือความเปียกชื้น โครงสร้างทั้งหมดผลิตจากสเตนเลสคุณภาพดีจึงมีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ทำความสะอาดง่าย และไม่เป็นสนิม ติดตั้งขอบยางรอบพื้นรถเข็นเพื่อลดการกระแทก บางรุ่นมีขอบกันตกเพื่อป้องกันสินค้าตกหล่น และมือจับพับเก็บได้1.3 รถเข็นอเนกประสงค์พื้นพลาสติก พื้นทำจากวัสดุพลาสติกเกรดเอจึงมีความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสความชื้น สารเคมี และกรดด่าง พื้นรถเข็นฉีดขึ้นรูปขึ้นลายและติดตั้งจุกยาง 4 จุดเพื่อกันลื่นและเจาะรูสำหรับใช้มือหิ้วได้ มือจับผลิตจากสเตนเลสคุณภาพดี แข็งแรง ไม่เป็นสนิม บางรุ่นมือจับพับเก็บได้1.4 รถเข็นอเนกประสงค์ไฟฟ้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เป็นเครื่องมือทุ่นแรงที่เพิ่มความสะดวกสบายในการขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ลดโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บจากการขนย้าย โครงสร้างรถเข็นผลิตจากเหล็กพ่นสีฝุ่น คุณภาพสูง สามารถปรับความเร็วในการเข็นได้ไม่ว่าจะขึ้นเนินหรือพื้นลาด ไม่มีเสียงรบกวนขณะที่ใช้งาน รถเข็นพับได้ ลักษณะเด่นของรถเข็นพับได้คือสามารถพับรถเข็นได้ให้มีขนาดที่เหมาะสำหรับการพกพา ตำแหน่งที่สามารถพับเก็บได้มี มือจับ ล้อ หรือฐานของรถเข็น ขึ้นอยู่กับการออกแบบของรถเข็นแต่ละรุ่น ส่วนใหญ่รถเข็นแบบพับได้จะมีน้ำหนักเบา มีขนาดกะทัดรัด บางรุ่นสามารถปรับความสูงได้ ซึ่งรถเข็นพับได้ JUMBO มี 4 ประเภทด้วยกัน2.1 รถเข็นพื้นพลาสติกพับได้ ลักษณะโดยทั่วไปเหมือนรถเข็นอเนกประสงค์แต่มือจับและล้อรถเข็นพับเก็บได้ โดยมือจับผลิตจากอลูมิเนียมหุ้มยาง สามารถปรับความสูงที่มือจับได้ 3 ระดับ รองรับน้ำหนักได้ 150 กิโลกรัม และตอนพับเก็บบางเพียง 75 มิลลิเมตรเท่านั้น 2.2 รถเข็นสเตนเลสพับได้ ลักษณะโดยทั่วไปเหมือนรถเข็น 2 ล้อ แต่มือจับและฐานสามารถพับเก็บได้ ผลิตจากสเตนเลสเกรด 201 เป็นเกรดสเตนเลสที่แม่เหล็กไม่สามารถดูดติดได้ มีความทนทานต่อการกัดกร่อน มีโอกาสเกิดสนิมได้น้อย น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด และรองรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม 2.3 รถเข็นอลูมิเนียมพับได้ เป็นประเภทของรถเข็นที่มีหลากหลายแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้ครบทุกการใช้งาน โดยรูปแบบของรถเข็นอลูมิเนียมพับได้มีดังนี้ 2.3.1 รถเข็นอลูมิเนียมสองล้อพับได้แบบผสมบันได เป็นรถเข็นที่สามารถใช้ขนย้ายสิ่งของและหากกางออกมาใช้เป็นบันไดเพื่อใช้งานบนที่สูงได้ เช่น จัดเก็บสินค้าที่ชั้นวางสินค้า ฐานและล้อรถเข็นพับเก็บได้ช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บเพราะเมื่อพับแล้วจะมีความหนาเพียง 110 มิลลิเมตรเท่านั้น ฐานของรถเข็นผลิตจากแผ่นพลาสติกกันลื่นจึงปลอดภัยในการใช้งาน มือจับหุ้มด้วย Poly Foam มีความแข็งแรง ไม่ฉีกขาดง่าย ความสูงจากพื้นถึงขั้นบันไดบนสุด 770 มิลลิเมตร รองรับน้ำหนักได้ 60 กิโลกรัมเมื่อใช้งานเป็นรถเข็นและรองรับน้ำหนักได้ 120 กิโลกรัมเมื่อใช้งานเป็นบันได 2.3.2 รถเข็นพื้นอลูมิเนียมแผ่นพื้นและมือจับขยายได้ พื้นรถและมือจับยืดขยายได้เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับการขนย้ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่และสูง มือจับพับเก็บได้ พื้นของรถเข็นมีลักษณะโปร่งผลิตจากท่ออลูมิเนียม ทำความสะอาดง่าย และไม่เป็นสนิม รองรับน้ำหนักได้ 150 กิโลกรัม 2.3.3 รถเข็นอลูมิเนียมสองล้อพับได้ ที่ฐาน มือจับ และล้อรถเข็นพับเก็บได้ สามารถเข็นได้ขณะที่พับได้โดยไม่ต้องหิ้ว จะมีเชือกรัดของแบบมีตะขอเกี่ยวความยาวประมาณ 1,950 มิลลิเมตรเพื่อใช้รัดสิ่งของขณะขนย้ายป้องกันการตกหล่น น้ำหนักเบา คล่องตัวในการขนย้ายจึงสะดวกในการพกพา รองรับน้ำหนักได้ 120 กิโลกรัม 2.3.4 รถเข็นอลูมิเนียมสี่ล้อพับได้ มือจับและฐานพับเก็บได้ น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด มีเชือกพร้อมตะขอยาว 1,570 มม. ใช้สำหรับลากตอนปรับเป็นรถเข็นแบบดอลลี่หรือใช้รัดสินค้า และรองรับน้ำหนักได้ 80 กิโลกรัม ประเภทของรถเข็น JUMBO ที่มีความหลากหลายก็เพื่อให้การปฏิบัติงานในหน้าที่ของรถเข็นมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลต่อธุรกิจมากที่สุด และด้วยการเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพและการพัฒนาเทคโนโลยีของรถเข็นอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้รถเข็น JUMBO ได้รับรางวัลเพื่อการันตีคุณภาพ เช่น Thailand Best จากเครือสหพัฒน์, Thailand's Brand จากสำนักส่งเสริมมูลค่าการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และ Thailand Trust Mark กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ จึงทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพและมาตรฐานของรถเข็น JUMBO รถเข็นที่เต็มประสิทธิภาพในทุกการใช้งาน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
วิธีเลือกซื้อรถเข็นช้อปปิ้งที่ใช่กับขนาดและสินค้าของร้านค้า

วิธีเลือกซื้อรถเข็นช้อปปิ้งที่ใช่กับขนาดและสินค้าของร้านค้า รถเข็นช้อปปิ้ง อุปกรณ์การตลาดที่ร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าควรมี รถเข็นช้อปปิ้งคือกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดและเรียบง่ายที่สามารถเข้าถึงลูกค้าทุกคนได้ เพราะรถเข็นช้อปปิ้งคือเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าจากความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ส่งผลให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่กับการเลือกซื้อสินค้านานมากยิ่งขึ้น มีผลต่อปริมาณการซื้อในแต่ละครั้ง ในปัจจุบันรถเข็นช้อปปิ้งกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าต้องมีเพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าซึ่งให้ประโยชน์ทั้งฝั่งลูกค้าเอง และฝั่งผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า รถเข็นช้อปปิ้งที่มักถูกใช้ในห้างสรรพสินค้าจะมีลักษณะที่คล้าย ๆ กันแต่จะมีฟังก์ชั่น ความแข็งแรง และทนทานที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของสินค้า เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค, วัสดุก่อสร้าง ซึ่งด้วยหน้าที่ของรถเข็นนอกจากประเภทของรถเข็นที่ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องกับประเภทของสินค้าแล้ว วิธีการเลือกซื้อรถเข็นก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการหรือผู้ที่ต้องมีหน้าที่ในการจัดซื้อรถเข็นควรทราบข้อมูล รวมไปถึงวิธีการดูแลรักษารถเข็นช้อปปิ้งที่จะช่วยให้รถเข็นสามารถใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นความคุ้มค่าสำหรับการลงทุนในธุรกิจ ประเภทของรถเข็นช้อปปิ้งมีด้วยกัน 3 ประเภทดังนี้ รถเข็นช้อปปิ้งแบบลังตะแกรง เป็นรถเข็นที่มีลักษณะเหมือนตะกร้าจ่ายตลาดขนาดใหญ่ มีมือจับและติดล้อ ซึ่งโครงสร้างหลักโดยส่วนใหญ่ของรถเข็นช้อปปิ้งแบบลังตะแกรงผลิตจากเหล็ก ส่วนตะแกรงผลิตจากลวดเพลาตันชุบซิงค์ เพื่อความแข็งแรงและทนทานในการใช้งาน มีฟังก์ชั่นที่สามารถซ้อนคันในการจัดเก็บเพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บรถเข็น และมีเก้าอี้สำหรับเด็กเพื่อช่วยให้การเดินช้อปปิ้งสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และพื้นที่ด้านล่างของลังตะแกรงยังสามารถวางสินค้าที่มีขนาดใหญ่ได้อีกด้วย เหมาะสำหรับห้างสรรพสินค้า ร้านค้า รถเข็นช้อปปิ้งแบบพื้นตะแกรง ไม่ได้มีลักษณะเหมือนตะกร้าเหมือนรถเข็นชนิดแรก แต่จะมีช่องเล็กที่สามารถใส่สินค้าขนาดไม่ใหญ่ได้และจะมีพื้นตะแกรงขนาดใหญ่ที่ใช้วางสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือน้ำหนักมาก ๆ ได้ ส่วนใหญ่โครงสร้างจะผลิตจากเหล็กและพื้นตะแกรงลวดซุบซิงค์มักถูกนำไปใช้ในการขนสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากในร้านวัสดุก่อสร้างหรือร้านเฟอร์นิเจอร์ รถเข็นช้อปปิ้งแบบพื้นตะแกรงสามารถซ้อนเก็บได้เพื่อประหยัดพื้นที่ และสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 500 กิโลกรัม เหมาะสำหรับร้านค้าที่จำหน่าย วัสดุก่อสร้าง, เฟอร์นิเจอร์, ของตกแต่งบ้าน รถเข็นสำหรับใส่ตะกร้าช้อปปิ้งมีล้อ เป็นประเภทของรถเข็นที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่อการช้อปปิ้งสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าที่มีจำนวนไม่มากหรือมีขนาดเล็ก แต่ยังต้องการความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย โดยสามารถวางตะกร้าลงบนรถเข็นซึ่งมีตะแกรงรองรับได้ทั้งด้านบนและด้านล่างและสามารถเข็นช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องหิ้วตะกร้า โครงสร้างของตะกร้าจะผลิตจากเหล็กพ่นสี และสามารถรองรับน้ำหนักได้ 30 กิโลกรัม เหมาะสำหรับห้างสรรพสินค้า ร้านค้า วิธีการเลือกซื้อรถเข็นช้อปปิ้งให้ได้มาตรฐานและประสิทธิภาพ วัสดุในการผลิต ควรเลือกซื้อรถเข็นที่ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน มีคุณภาพและมาตรฐานเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจากการใช้งาน ลูกล้อรถเข็นช้อปปิ้ง ควรเลือกใช้ชนิดลูกล้อที่ไม่ทำลายพื้น ไม่ทิ้งรอยรถเข็นบนพื้น ล้อรถเข็นมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่มีเสียงรบกวน ยืดหยุ่นและไม่แตกง่าย ประเภทของล้อที่นิยมใช้ในรถเข็นช้อปปิ้งคือ ลูกล้อยาง ลูกล้อPU นอกจากนั้นขนาดของล้อรถเข็นยังมีความสำคัญสำหรับการรับน้ำหนักยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งสามารถรองรับน้ำหนักได้มาก และประเภทของล้อเช่น ล้อเกลียว ล้อตาย ล้อเป็น ที่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายโดยเฉพาะการเลี้ยวในมุมแคบ เป็นต้น ความจุและน้ำหนักของสินค้า ผู้ประกอบควรประเมินน้ำหนักเฉลี่ยของสินค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยเพื่อจะได้เลือกใช้รถเข็นช้อปปิ้งที่มีพิกัดน้ำหนักที่สามารถรองรับได้เพื่อให้รถเข็นช้อปปิ้งมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด และเพื่อเป็นการยืดอายุในการใช้งานของรถเข็นช้อปปิ้ง เช่น Homepro ที่จำหน่ายวัสดุก่อสร้างควรเลือกใช้รถเข็นที่สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก เช่น รถเข็นช้อปปิ้งแบบพื้นตะแกรงที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ 500 กิโลกรัม มาตรฐานรถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นช้อปปิ้งเป็นรถเข็นที่มีการใช้งานตลอดเวลา ดังนั้นความแข็งแรงและทนทาน คุณสมบัติหลักและมาตรฐานของรถเข็นช้อปปิ้ง จึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เช่น มาตรฐานมอก.สำหรับวัสดุ มาตรฐาน ISO สำหรับการผลิต มีบริการหลังการขาย ควรเลือกซื้อรถเข็นช้อปปิ้งจากบริษัทหรือร้านค้าที่มีการบริการหลังการขายที่มีอะไหล่และบริการซ่อมบำรุงหากรถเข็นช้อปปิ้งมีการชำรุดหรือเสียหายจะได้รับการซ่อมแซมทันท่วงทีเพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง วิธีดูแลรักษารถเข็นช้อปปิ้ง ไม่ควรบรรทุกเกินพิกัด แน่นอนว่าสำหรับร้านค้าคงเป็นไปได้ยากหากที่จะควบคุมปริมาณการซื้อของลูกค้าดังนั้นการเลือกซื้อรถเข็นช้อปปิ้งที่มีปริมาณการจุที่เหมาะสมทั้งการซื้อต่อครั้งของลูกค้าและน้ำหนักโดยเฉลี่ยของสินค้าจึงเป็นสิ่งที่ห้างสรรพสินค้าต้องทำการศึกษาข้อมูลเพื่อจะได้เลือกซื้อพิกัดน้ำหนักได้ถูกต้องกับการใช้งานจริง จะช่วยให้รถเข็นช้อปปิ้งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สภาพพื้นผิว ลูกล้อรถเข็นเป็นอุปกรณ์สำคัญในรถเข็นช้อปปิ้ง ซึ่งสภาพผิวของพื้นที่ต้องใช้เข็นรถเข็นช้อปปิ้งควรเป็นพื้นที่ราบเรียบ สะอาด เพื่อป้องกันการเสียหายของลูกล้อรถเข็น และเพื่อให้รถเข็นช้อปปิ้งมีประสิทธิภาพในการใช้งาน ควรบำรุงรักษารถเข็นช้อปปิ้งทุก 3 เดือน ด้วยการเช็ดถูทำความสะอาดรถเข็นช้อปปิ้งแบบแห้งและควรเก็บให้ห่างจากความชื้น ล้อรถเข็นควรเติมน้ำมันหล่อลื่นเป็นประจำเพื่อป้องกันลูกล้อฝืด ซึ่งจะทำให้การเข็นรถเข็นช้อปปิ้งบังคับทิศทางเป็นไปได้ยาก และควรตรวจสอบลูกล้อเป็นประจำเพื่อเช็คสภาพความสมบูรณ์ เช่น น็อตยึดแป้นลูกล้อ การแตกของยางลูกล้อ การลื่นไหลในการเข็น เป็นต้น หากชำรุดควรซ่อมแซมทันที หากตรวจสภาพของรถเข็นช้อปปิ้งแลัวพบว่ารถเข็นช้อปปิ้งมีการชำรุดควรทำการแยกรถเข็นที่ชำรุดออกมาเพื่อซ่อมแซมหรือส่งไปซ่อมแซมกับบริษัทหรือร้านค้าที่ซื้อมาเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดจากรถเข็นช้อปปิ้ง เช่น ลูกล้อหลุดทำให้สินค้าเสียหายและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานหรือผู้ที่อยู่รอบข้างได้ นวัตกรรมของรถเข็นช้อปปิ้งในโลกอนาคต รถเข็นช้อปปิ้งถึงแม้จะสร้างความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าแต่ลูกค้ามักจะพบความล่าช้าในการจ่ายค่าสินค้าที่จุดแคชเชียร์โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากทำให้แถวสำหรับต่อคิวเพื่อจ่ายค่าสินค้ายาว จนบางครั้งทำให้ขัดขวางการเดินช้อปปิ้งของลูกค้าท่านอื่น ทำให้มีการคิดค้นรถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะ ขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถจ่ายค่าสินค้าได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยรถเข็นอัฉริยะสามารถบอกรายการของสินค้าและราคาสินค้ารวมทั้งแจ้งราคารวมผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ที่ตัวของรถเข็นติดตั้งตัวอ่านบาร์โค้ดไว้ซึ่งลูกค้าสามารถเช็คราคาก่อนหย่อนสินค้าลงในรถเข็นช้อปปิ้งได้ แต่หากไม่ต้องการซื้อสินค้าที่อยู่ในรถเข็นช้อปปิ้งแล้วสามารถหยิบออกและหน้าจอมอนิเตอร์จะทำการลบรายการสินค้าให้ทันที หากต้องการจ่ายเงิน รถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะได้มีการเชื่อมต่อระบบ prepaid card เพื่อให้สามารถจ่ายค่าสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมาก ระบบการทำงานของรถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะที่กล่าวมาเป็นระบบการทำงานพื้นฐานของรถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะซึ่งแต่ละห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าอาจจะมีระบบและฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการใช้งาน ตัวอย่างของร้านค้าที่เลือกใช้รถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะ เช่น Amezon Go ใช้รถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะภายใต้ Concept Just Walk Out หรือเซี่ยงไฮ้ โลตัส ซุปเปอร์มาร์เก็ต เชนสโตร์ ที่ใช้ระบบ รถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะบนเทคโนโลยีที่เรียกว่า indoor positioning technology และซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่จังหวัด Chiba ประเทศญี่ปุ่นก็ได้มีการนำรถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะมาใช้งานเช่นกัน รถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะเป็นเทคโนโลยีที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้ามีความสนใจจะนำมาใช้งานเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการให้ได้มากที่สุดและลดค่าใช้จ่ายสำหรับจ้างพนักงานแคชเชียร์ แต่รถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะมีการลงทุนที่สูงและยังต้องมีพนักงานคอยให้บริการเมื่อมีปัญหาระหว่างใช้งานหรือยังต้องมีจุดแคชเชียร์เพื่อเป็นจุดจ่ายค่าสินค้าเมื่อระบบมีปัญหา ดังนั้นในปัจุบันรถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะส่วนใหญ่จึงถูกนำมาใช้ในห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่เท่านั้น Jenstore by Jenbunjerd เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถเข็นงานบริการ รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นตะแกรงลวด รถเข็นสำนักงาน ภายใต้แบรนด์ JUMBO ที่มีคุณภาพสูง แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก เข็นคล่อง เสียงเงียบ ควบคุมง่าย และยังได้รับรางวัลมากมายเพื่อการันตีคุณภาพ เช่น Thailand Best จากเครือสหพัฒน์, Thailand's Brand จากสำนักส่งเสริมมูลค่าการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และThailand Trust Mark กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ พร้อมบริการหลังการขายจากทีมงานมืออาชีพให้คุณมั่นใจได้ทั้งสินค้าและบริการ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
เจาะลึกประสิทธิภาพของล้อรถเข็นอุตสาหกรรมแต่ละประเภท

เจาะลึกประสิทธิภาพของล้อรถเข็นอุตสาหกรรมแต่ละประเภท เลือกล้อรถเข็นที่ใช่สร้างประสิทธิภาพในการใช้งาน ล้อรถเข็น เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของรถเข็นเพราะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อุตสาหกรรมที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายและรองรับน้ำหนักของสิ่งของ ล้อรถเข็นต้องมีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อแรงกระแทก และต้องมีความไหลลื่นของลูกล้อเพื่อให้เคลื่อนที่ได้สะดวกสบาย นอกเหนือจากนั้นยังต้องทนได้ทุกสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะอุณหภูมิสูงหรืออุณหภูมิต่ำ ความชื้น น้ำท่วมขัง หรือพื้นที่ที่มีสารเคมี ส่งผลให้วัสดุที่ใช้ในการผลิตล้อรถเข็นมีหลายชนิดเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานในทุกประเภท ประเภขของวัสดุที่ใช้ในการผลิตล้อรถเข็น ล้อรถเข็นยางธรรมชาติ เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง มีความนิ่ม จึงทำให้ไม่มีเสียงดังขณะเคลื่อนย้าย ดูดซับแรงกระแทกได้ดี มีความแข็งแรงและทนทาน แต่ไม่ทนทานต่อน้ำมัน สามารถใช้กับ พื้นไม้, พื้นกระเบื้อง, พื้นเซรามิก และคอนกรีตได้ ล้อรถเข็นยางธรรมชาติจะมี 2 สีด้วยกัน คือสีดำ และสีเทา ซึ่งล้อรถเข็นยางธรรมชาติสีเทาจะไม่ทิ้งรอยล้อไว้บนพื้น จึงนิยมนำไปติดตั้งรถเข็นที่ต้องใช้ในโรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, โรงอาหาร ที่เน้นเรื่องความสะอาด ล้อรถเข็นยางสังเคราะห์ TRP เป็นวัสดุที่มาลบจุดด้อยของยางธรรมชาติแต่ยังคงคุณสมบัติที่ดีไว้ โดยล้อรถเข็นยางสังเคราะห์ธรรมชาติจะมีความนุ่มนวลเวลาเข็น ไม่มีเสียงดังรบกวน ทนทานต่อแรงกระแทกไม่มีทิ้งรอยล้อรถเข็นบนพื้น ทนทานต่อสารเคมีและน้ำ สามารถใช้งานบนพื้นพรมได้ดีกว่าล้อยางธรรมชาติ หรือใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์และรถเข็นสำนักงานก็ได้ ล้อรถเข็นพลาสติก PP เป็นล้อที่ผลิตจาก Polypropylene ที่มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิสูงหรืออุณหภูมิต่ำได้ ทนทานต่อสารเคมีและน้ำมันได้ดี มีความคล่องตัวสูง มีความเหนียว มีความแข็งแรง คงรูปไม่แตกหักได้ง่าย ทนต่อแรงกระแทก รองรับน้ำหนักได้ในระดับปานกลาง เหมาะใช้บนพื้นเรียบ เช่น โรงแรม, โรงพยาบาล ล้อรถเข็นไนลอน ไนลอนเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีความแข็งแรงกว่าพลาสติกทั่วไป ล้อไนล่อนจึงมีความทนทาน แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย สามารถรองรับน้ำหนักมาก ๆ ได้ ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงหรืออุณหภูมิต่ำ สารเคมี กรด และด่างได้ดี มีความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และรับน้ำหนักขณะหยุดนิ่งได้เป็นเวลานาน สามารถใช้ในพื้นกลางแจ้ง พื้นผิวขรุขระ พื้นเปียกชื้นหรือมีน้ำขังได้ จึงนิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ห้องเย็น แต่ไม่ควรใช้กับพื้นไม้หรือพื้นหินอ่อนเพราะจะทิ้งรอยล้อไว้ ล้อรถเข็นยูรีเทน เป็นวัสดุที่มีความเหนียวมาก ไม่ฉีกขาดหรือแตกหักได้ง่าย แข็งแรงทนทาน ทนต่อการขีดข่วนและสารเคมีได้ดี ไม่มีเสียงดังรบกวน ไม่ทิ้งรอยบนพื้น มีความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ ทนทานต่อการสึกหรอ สารเคมี และน้ำมันได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นเซรามิก หินอ่อน คอนกรีต หรือพื้นผิวที่ขรุขระ ซึ่งล้อยูรีเทนมีหลายเกรด เช่น ล้อยูรีเทน PUb, ล้อยูรีเทน PUoหรือ ล้อยูรีเทน PUt แตกต่างกันที่ความแข็งแรงและอายุการใช้งาน ล้อรถเข็นเหล็กหล่อ มีทั้งความแข็งแรงและทนทานสูง ทนทานต่อการเสียดสี ทนทานต่อแรงกระแทก หรืออุณหภูมิสูง-ต่ำได้ดี เป็นล้อรถเข็นที่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ และสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นขรุขระ พื้นคอนกรีต จึงเหมาะกับการใช้งานนอกอาคาร งานกลางแจ้ง แต่จะมีเสียงดังรบกวนขณะเคลื่อนย้ายและทำให้พื้นผิวเป็นรอยหรือแตกหัก จึงไม่เหมาะกับพื้นกระเบื้อง พื้นหินอ่อน ประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายของรถเข็นที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ล้อรถเข็นที่ถูกต้องกับลักษณะกับการใช้งานเพราะเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับพื้นที่มีสภาพที่แตกต่างกัน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความแข็งแรง ทนทาน แต่ยังมีความคล่องตัวและรวดเร็วในการใช้งาน การเลือกใช้ชิ้นส่วนต่าง ๆ รูปแบบการติดตั้ง และขนาดของล้อรถเข็นก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงเพื่อเพิ่มศักยภาพของล้อรถเข็นให้รองรับกับงานหนัก ๆ ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้ ประเภทของล้อรถเข็น เป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนที่ของล้อรถเข็นที่มีความแตกต่างกันออกไป เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมซึ่งมีด้วยกัน 3 ประเภท คือ 1.1 ล้อตาย เป็นล้อรถเข็นที่มีการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและถอยหลังเท่านั้นเพราะเป็นล้อที่มีโครงสร้างแบบยึดคงที่ เหมาะสำหรับรองรับสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ใช้กับพื้นที่ขรุขระ งานกลางแจ้ง หรือติดตั้งกับเครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรม 1.2 ล้อเป็น เป็นล้อรถเข็นที่มีการเคลื่อนที่ได้ 360 องศา เคลื่อนที่แบบอิสระ เพื่อความคล่องตัวและความสะดวกสบายในการเคลื่อนที่ นิยมใช้ในรถเข็นช้อปปิ้ง หรือรถเข็นบริการต่างๆ 1.3 ล้อติดเบรก คือการติดอุปกรณ์เบรกที่ล้อรถเข็นเพื่อเป็นการบังคับให้ล้อรถเข็นหยุดทำงานทันทีที่ต้องการ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและควบคุมการเคลื่อนที่ที่ต้องการได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น รูปแบบการติดตั้งล้อรถเข็น เป็นการเพิ่มความแข็งแรง และความทนทานของล้อรถเข็นเพื่อให้รองรับน้ำหนักได้ตามความต้องการของผู้ที่จะใช้งาน ซึ่งรูปแบบการติดตั้งมีด้วยกัน 3 รูปแบบ 2.1 ล้อรถเข็นแบบขาแป้น ลักษณะของชิ้นส่วนจะเป็นแผ่นโลหะสี่เหลี่ยมจตุรัสซึ่งจะใช้สกรูยึดทั้ง 4 มุม ล้อรถเข็นแบบขาแป้นจะช่วยให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี มีความมั่นคงและแข็งแรง ไม่ทรุดตัวง่าย นิยมใช้สำหรับรถเข็นที่ใช้เคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ๆ 2.2 ล้อรถเข็นแบบเกลียว ลักษณะของชิ้นส่วนคล้ายกับเกลียวของสกรู ซึ่งมี 2 แบบด้วยกันคือ แบบสกรูและแบบรู ส่วนมากจะนำมายึดร่วมกับเหล็กฉากเพื่อให้แน่น แข็งแรง และทนทานมากยิ่งขึ้น นิยมใช้สำหรับรถเข็นที่มีขนาดเล็กและขนาดกลาง 2.3 ล้อรถเข็นแบบปลั๊กอิน ลักษณะของชิ้นส่วนคล้ายแบบเกลียว แต่วิธีการติดตั้งจะมีความสะดวกมากกว่าเพราะแค่สวมหรือเสียบเข้าไปเท่านั้น และยึดด้วยเดือยหรือแกนแหวนล็อคโดยใช้เครื่องมือตอกอัดเข้ากับชิ้นงาน นิยมใช้กับรถเข็นขนาดเล็ก ขนาดล้อรถเข็น มีผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานของรถเข็น โดยขนาดของรถเข็นมีพิกัดในการรองรับน้ำหนักที่แตกต่างกันซึ่งล้อรถเข็นที่มีขนาดใหญ่จะช่วยในการรองรับน้ำหนักมาก ๆ ของสิ่งของได้ การเข้าใจถึงคุณสมบัติของล้อรถเข็นแต่ละชนิด ชิ้นส่วนต่าง ๆ รูปแบบการติดตั้ง และขนาดของล้อรถเข็นจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้งานได้ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น Jenstore by Jenbunjerd เป็นศูนย์รวมลูกล้ออุตสาหกรรม ล้อรถเข็น มาตรฐานส่งออก ภายใต้แบรนด์ SUPO ที่เป็นล้อรถเข็นคุณภาพสูงนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งใช้ระบบ Ball Bearing เพื่อให้ล้อมีประสิทธิภาพในการออกตัวและผ่อนแรงในการเข็น ลูกปืนของล้อรถเข็นรับน้ำหนักได้ตามพิกัดและผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง ออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยหลักวิศวกรรมยานยนต์ จึงมั่นใจได้ในความแข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน ประเภทของล้อรถเข็นที่จำหน่าย เช่น ล้อยูรีเทน PU, ล้อยูรีเทน PUb, ล้อยูรีเทนไฮเทค PUo, ล้อไนล่อน PA, ล้อพลาสติก PP, ล้อยาง, ล้อรับน้ำหนักมากพิเศษ ล้ออุตสาหกรรม พร้อมการรับประกันสินค้ายาวนานถึง 1 ปี ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
SUPO ล้อรถเข็นประสิทธิภาพสูง ที่ทุกอุตสาหกรรมต้องเลือกใช้!

SUPO ล้อรถเข็นประสิทธิภาพสูง ที่ทุกอุตสาหกรรมต้องเลือกใช้! ล้อรถเข็น SUPO คุณภาพที่มาพร้อมมาตรฐาน ล้อรถเข็น ใช้ติดตั้งที่รถเข็นชนิดต่างๆหรือดอลลี่ที่ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายสินค้า เป็นล้อทรงกลมที่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งในการรองรับน้ำหนักของสินค้า แต่มีความไหลลื่น คล่องตัวในการเคลื่อนที่ ล้อรถเข็นจึงต้องมีการออกแบบ และการคัดสรรวัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อคำนึงถึงการใช้งาน รวมไปถึงการผลิตที่มีมาตรฐาน และการทดสอบคุณภาพเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของล้อรถเข็น โดยเฉพาะล้อรถเข็นที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่ต้องเจอกับงานหนักทั้งจำนวนและปริมาณ อีกทั้งบางครั้งมีการใช้งานในระยะเวลาที่ยาวนาน รวมไปถึงระยะทางที่ไกล ล้อรถเข็นที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมจึงต้องมีมาตรฐานเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุด ล้อรถเข็น SUPO เป็นล้อรถเข็นแบรนด์คุณภาพสูงที่มีล้อรถเข็นถึง 14 ชนิดมากกว่า 5,000 แบบเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานในอุตสาหกรรม ล้อรถเข็น SUPO มีความคล่องตัว แม่นยำ และปลอดภัย ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูงเพื่อมาใช้ในการผลิตที่มีมาตรฐาน จึงมั่นใจได้ในคุณภาพของล้อรถเข็นแบรนด์ SUPO และการันตีคุณภาพของล้อรถเข็น SUPO ด้วยตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 15 ประเทศทั่วโลกใน 5 ทวีป 14 ชนิดของล้อรถเข็นแบรนด์ SUPO ที่ส่งออกจำหน่ายทั่วโลก ล้อยูรีเทน PU ไม่เกิดรอยบนพื้นขณะที่เคลื่อนที่ ไม่มีเสียงรบกวน มีความคล่องตัว ทนทานต่อแรงกระแทก การสึกหรอ และสารเคมี ล้อรถเข็นโอลีฟิน YUPA เป็นเนื้อไนลอนสังเคราะห์ เหมาะสำหรับใช้ในงานที่เปียกชื้น เพราะมีความทนทานต่อน้ำและสารเคมี ลื่นไหลในการเคลื่อนที่ มีความคล่องตัว ล้อรถเข็นพลาสติก PP ลื่นไหลในการเคลื่อนที่ มีความคล่องตัว ทนทานต่อสารเคมี มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ปานกลางถึงน้ำหนักมาก ล้อยางสังเคราะห์ TPR เหมาะสำหรับใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ รถเข็นสำนักงาน ฯลฯ มีความนุ่มนวลในการเคลื่อนที่ ไม่มีเสียงรบกวน ไม่เกิดรอยบนพื้นขณะเคลื่อนที่ ล้อรถเข็นยูรีเทน PUb ลื่นไหลในการเคลื่อนที่ มีความคล่องตัว ทนทานต่อการสึกหรอและสารเคมี มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก ล้อไนล่อน PA ลื่นไหลในการเคลื่อนที่ มีความคล่องตัว ทนทานต่อการสึกหรอและสารเคมี มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก ล้อรถเข็นยูรีเทนไฮเทค PUo ไม่เกิดรอยบนพื้นขณะเคลื่อนที่ ไม่มีเสียงรบกวน มีความคล่องตัว มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักปานกลาง ทนทานต่อแรงกระแทก การสึกหรอ สารเคมีและน้ำมัน ล้อรถเข็นยางอีลาสติก ER ไม่เกิดรอยบนพื้นขณะเคลื่อนที่ ไม่มีเสียงรบกวน มีความคล่องตัว แข็งแรง รองรับน้ำหนักปานกลาง ทนทานต่อแรงกระแทก เนื้อวัสดุมีความนุ่มจึงกันการสะเทือนได้เป็นอย่างดี ล้อรถเข็นกันชื้น ทนทานต่อการสึกหรอและสารเคมี มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก เหมาะกับการใช้งานในบริเวณที่มีความชื้นสูง ล้อรถเข็นกันน้ำ โครงสร้างภายในเป็นสเตนเลสไม่ขึ้นสนิม แข็งแรง รับน้ำหนักได้มาก เหมาะกับการใช้งาน ในที่เปียกชื้นหรือต้องสัมผัสน้ำโดยตรง ล้อรถเข็นทนความร้อน เหมาะสำหรับใช้ในงานที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ในห้องอบ ห้องฆ่าเชื้อ ทนต่อความร้อนได้ถึง 260 องศาเซลเซียส ล้อรถเข็นป้องกันไฟฟ้าสถิต เหมาะสำหรับใช้ในวงการแพทย์ วงการอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เกิดรอยบนพื้นขณะเคลื่อนที่ ไม่มีเสียงรบกวน มีความคล่องตัว ล้อรถเข็นรับน้ำหนักมากพิเศษ เหมาะสำหรับใช้งานในกลุ่มรถอุตสาหกรรม ที่ต้องรับน้ำหนักมาก ๆ ทนทานต่อการสึกหรอและสารเคมี ล้อรถเข็นยางขนาดใหญ่ มีหน้าล้อกว้างเพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับใช้งานนอกอาคาร ทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี เคลื่อนที่ได้คล่องแคล่ว ความโดดเด่นของล้อรถเข็นแบรนด์ SUPO ล้อรถเข็นสำหรับงานโรงแรม รับน้ำหนักได้ 150-250 กิโลกรัม เข็นได้นุ่ม ไร้เสียงรบกวน ล้อรถเข็นอุตสาหกรรม รับน้ำหนักได้ 12-4,000 กิโลกรัม ควบคุมได้แม่นยำและปลอดภัย ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง ประกอบประณีตทุกขั้นตอน จึงมีความแข็งแรงและทนทาน มีความลื่นไหล คล่องตัว แม่นยำ และปลอดภัยในการเคลื่อนที่ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถเข็นต่อเนื่องได้ไกลถึง 13 กิโลเมตร ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล รับน้ำหนักได้ตามพิกัดที่กำหนด ล้อรถเข็น SUPO มีหลายชนิดเพื่อให้ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม รูปแบบสวยทันสมัย มีการรับประกันลูกล้อรถเข็น 1 ปี ล้อรถเข็น SUPO มากด้วยประสิทธิภาพและมาตรฐานระดับสากล ใช้ระบบ Ball Bearing เป็นระบบพื้นฐานในการเคลื่อนที่ ซึ่ง Ball Bearing ตลับลูกปืนเม็ดทรงกลมทำจากโลหะแข็งจะถูกบรรจุไว้ภายใน ทำหน้าที่รองรับน้ำหนัก แรงเหวี่ยง ของการเคลื่อนที่เป็นการรับแรงแบบจุดจึงทำให้สามารถทำความเร็วรอบได้สูง ช่วยให้ล้อมีประสิทธิภาพสูงในการออกตัวและผ่อนแรงในการเข็น ซึ่งล้อรถเข็น SUPO มีระบบ Ball Bearing 2 แบบ คือ 1. Single Ball Bearing ใช้สำหรับงานเบา และ Double Ball Bearing ใช้สำหรับงานหนัก เสียงรบกวนต่ำสุดเพียง 25dBA ล้อรถเข็น SUPO มีระดับเสียงขณะเคลื่อนที่ที่ต่ำกว่าระดับเสียงกระซิบจึงไม่สร้างมลพิษทางด้านเสียง สามารถใช้เคลื่อนย้ายสินค้าได้ยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงดังที่อาจก่อให้เกิดความรำคาญหรือมีผลเสียต่อสุขภาพ เพิ่มอายุการใช้งานด้วยชุดซีลกันฝุ่นที่จะช่วยยืดอายุจุดหมุนของล้อแป้นเพื่อชะลอการแห้งตัวของสารหล่อลื่นลูกปืน ออกแบบพิเศษตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ จึงมั่นใจได้ถึงความแข็งแรงและทนทาน ความสามารถในการรับน้ำหนักตรงตามพิกัดที่กำหนดไว้ ล้อรถเข็นคุณภาพสูง โดยแบรนด์ล้อรถเข็น SUPO ได้เข้ารับการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานเดียวกับประเทศในยุโรปเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของล้อรถเข็น SUPO เป็นการการันตีประสิทธิภาพที่จะได้รับในการใช้งาน โดยล้อรถเข็น SUPO ได้เข้ารับการทดสอบความแข็งของชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ (Metal Components Hardness Test) , การทดสอบการสึกหรอของเนื้อล้อระหว่างล้อบดสองด้าน (Wearability Test), การทดสอบความทนทานของล้อบนจานหมุน (Durability Test) อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง มาตรฐานระดับสากล ล้อรถเข็น SUPO ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น ISO9001 มาตรฐานระบบคุณภาพที่ต้องให้ได้มาตรฐานตั้งแต่การออกแบบ พัฒนาการผลิต การติดตั้ง และการบริการ, Design Patent สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ Jestore by Jenbunjerd เป็นตัวแทนจำหน่ายลูกล้อรถเข็นแบรนด์ SUPO ในประเทศไทย ที่เป็นแบรนด์ล้อรถเข็นคุณภาพสูงที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัท เจนบรรเจิด จำกัด เป็นบริษัทอันดับ 1 ในการจำหน่ายและส่งออกอุปกรณ์จัดเก็บยกย้าย ที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกประเภทที่มีจำหน่ายที่ Jestore by Jenbunjerd เป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานในทุกอุตสาหกรรมและมีสินค้าให้คุณเลือกสรรมากกว่า 10,000 รายการ ตอบโจทย์งานคลังสินค้าและ Intralogistics แบบครบวงจร และบริการให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายจากทีมงานมืออาชีพให้การจัดซื้อเป็นเรื่องง่าย เจนบรรเจิด ช่วยยกระดับธุรกิจด้วยนวัตกรรมจัดเก็บ ยก ย้าย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถยกไฟฟ้าตัวช่วยทุ่นแรงในการยก-ย้ายสินค้าในงานอุตสาหกรรม

รถยกไฟฟ้าตัวช่วยทุ่นแรงในการยก-ย้ายสินค้าในงานอุตสาหกรรม การยก-ย้ายสินค้าในที่แคบเป็นเรื่องง่ายด้วยรถยกไฟฟ้า รถยกไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยกสินค้า หรือเคลื่อนย้ายสินค้าบนพาเลทในระยะใกล้ ซึ่งลักษณะการยกสินค้าของรถยกไฟฟ้าจะยกซ้อนพาเลทสินค้าเป็นแนวดิ่ง จึงนิยมใช้รถยกไฟฟ้าในคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า เพื่อจัดเก็บสินค้าในชั้นวางสินค้าหรือวางซ้อนกันให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน และยังสามารถใช้งานในการเคลื่อนย้ายสินค้าในแนวราบได้อีกด้วย รถยกไฟฟ้าเป็นรถยกสูงที่เหมาะในการใช้งานภายในอาคารเพราะเป็นรถยกที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ให้เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าเพื่อควบคุมการทำงานของมอเตอร์ในการยก-ย้ายพาเลทสินค้า จึงไม่มีเขม่าควันที่มีผลเสียต่อสุขภาพของพนักงานและสิ่งแวดล้อม จึงทำให้รถยกไฟฟ้าเป็นที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม รถยกไฟฟ้าถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยก-ย้ายส่งผลให้มีความรวดเร็วในการหมุนเวียนสินค้าในคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งมีผลดีต่อแผนการดำเนินธุรกิจและผลประกอบการ แต่การใช้รถยกไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพผู้ประกอบการควรทำความรู้จักลักษณะของรถยกไฟฟ้า รวมไปถึงข้อดี ข้อจำกัด วิธีการดูแลรักษาและข้อควรระวังเพื่อที่จะเลือกใช้งานได้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด มาทำความรู้จักรถยกไฟฟ้าที่เปลี่ยนการยก-ย้ายสินค้าให้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ประเภทของรถยกไฟฟ้า รถยกไฟฟ้ามีทั้งหมด 3 ประเภทแบ่งตามลักษณะของการใช้งาน รถยกไฟฟ้าแบบเดินตาม หากต้องการเคลื่อนที่รถยกไฟฟ้าต้องใช้แรงในการผลักหรือลากรถยกไฟฟ้าเพื่อเป็นการควบคุมทิศทางรถยกไฟฟ้า แต่การยก-ย้ายสินค้าจะใช้พลังงานระบบไฟฟ้าทั้งหมดในการทำงาน รถยกไฟฟ้าแบบยืนขับ เป็นการควบคุมรถยกไฟฟ้าทั้งหมดด้วยระบบไฟฟ้ารวมไปถึงการควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยกไฟฟ้า โดยรถยกไฟฟ้าจะมีแท่นให้ยืนเพื่อลดความเมื่อยล้าและมีส่วนป้องกันอันตรายขณะยืนที่มีลักษณะคล้ายแขน ซึ่งบางรุ่นของรถยกไฟฟ้าก็สามารถพับเก็บได้เพื่อให้เปลี่ยนเป็นโหมดรถยกไฟฟ้าแบบเดินตาม รถยกไฟฟ้าแบบนั่งขับ จะมีห้องโดยสารและมีที่นั่งขับเพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบาย ลดอาการเมื่อยล้าจากการยก-ย้ายพาเลทสินค้าเป็นเวลานาน ข้อดีของรถยกไฟฟ้า ขนาดเล็กกะทัดรัดจึงใช้พื้นที่ในการเลี้ยวที่เล็กจึงใช้ขนย้ายได้ดีในพื้นที่แคบ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะใช้พลังงานจากระบบไฟฟ้าจึงไม่มีเขม่าควันขณะยก-ย้ายพาเลทสินค้า จึงเหมาะสมในการใช้ภายในอาคาร เป็นเครื่องทุนแรงในการยก-ย้ายพาเลทสินค้า ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเคลื่อนย้ายพาเลทสินค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนย้ายสินค้า โดยสามารถเพิ่มรอบการทำงานได้มากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานในการขนย้ายและช่วยประหยัดเวลาในการขนย้าย ระบบการใช้งานง่ายสามารถเรียนรู้และใช้งานได้ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์ ไม่มีเสียงดังรบกวนขณะขนย้ายพาเลท จึงไม่มีมลพิษทางเสียง ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้พนักงานในการขนย้ายทั้งอันตรายที่อาจเกิดต่อพนักงานและความเสียหายที่เกิดจากการตกหล่นของสินค้า บำรุงรักษาง่ายแค่ชาร์ทไฟหลังการใช้งานทุกครั้งเท่านั้น บางรุ่นไม่ต้องถอดแบตเตอรี่เพื่อนำมาชาร์จไฟฟ้า เพราะมีระบบ Built-IN Charger สามารถชาร์จไฟฟ้าได้จากปลั๊กไฟบ้านได้ทันทีเมื่อต้องการชาร์จ และเป็นแบตเตอรี่ชนิดที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ข้อจำกัดของรถยกไฟฟ้า ไม่สามารถใช้งานภายนอกอาคารได้เพราะไม่ทนทานต่อสภาพอากาศภายนอก ไม่สามารถทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานเพราะต้องชาร์จแบตเตอรี่ หรือหากต้องการใช้งานได้ยาวนานต้องมีแบตเตอรี่สำรอง ไม่สามารถขนย้ายในระยะไกลได้ มีราคาที่สูงหากเทียบกับรถยกสูงชนิดอื่น ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาในการเลือกใช้รถยกไฟฟ้าให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เครื่องมือที่ใช้ในการยก-ย้ายสินค้าไม่ได้มีแค่รถยกไฟฟ้าเท่านั้น ดังนั้นก่อนการตัดสินใจซื้อนอกจากลักษณะของรถยกไฟฟ้า ข้อดี และข้อจำกัดแล้วควรพิจารณาลักษณะการใช้งานของฝั่งผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถเลือกใช้เครื่องมือในการยก-ย้ายสินค้าได้ถูกต้องตามความต้องการเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ขนาดพื้นที่ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเพราะหากโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้ามีขนาดไม่ใหญ่ แคบ และพื้นผิวถนนราบเรียบ รถยกไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ดีในลักษณะพื้นที่ดังกล่าว แต่ถ้าหากมีพื้นที่ใหญ่และต้องขนย้ายสินค้าในระยะไกลการเลือกใช้รถโฟล์คลิฟท์จะเหมาะสมมากกว่าการเลือกใช้รถยกไฟฟ้า น้ำหนักของพาเลทสินค้า รถยกไฟฟ้าเป็นรถยกที่ใช้ยกสินค้าขึ้นที่สูงเพื่อจัดเก็บหรือจัดเรียงสินค้าซึ่งการยกสินค้าขึ้นที่สูงมาก ๆ น้ำหนักของสินค้าจะน้อยลงแปรผันตามความสูงที่ยกได้ หากต้องยกสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ๆ อาจต้องเลือกใช้เครื่องมือในการขนย้ายสินค้าชนิดอื่นเพื่อรองรับน้ำหนักสินค้าที่มากขึ้น ได้ ความปลอดภัย หากพื้นที่การทำงานที่ต้องยก-ย้ายพาเลทสินค้า มีพนักงานของหน่วยงานอื่นต้องปฏิบัติงานโดยใช้พื้นที่ร่วมกัน การใช้รถยกไฟฟ้าเหมาะสมอย่างมากเนื่องจากเคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัยจึงไม่มีอันตรายทั้งต่อพนักงานหน่วยงานอื่นและพนักงานผู้ควบคุมรถยกไฟฟ้า ความปลอดภัยในการใช้งานรถยกไฟฟ้า ด้วยหน้าที่ของรถยกไฟฟ้าที่ต้องทั้งยกสินค้าขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายสินค้าในแนวราบ จึงเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการใช้งานได้ง่าย ดังนั้นก่อนการใช้งานรถยกไฟฟ้าควรมีข้อระวังเพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุดในการใช้งาน ข้อควรระวังในการใช้รถยกไฟฟ้า ควรตรวจสอบสภาพรถยกไฟฟ้าก่อนการใช้งานทุกครั้ง พนักงานที่จะใช้รถยกไฟฟ้าควรผ่านการฝึกอบรมในการใช้งานมาก่อนการใช้งานจริง ไม่ควรใช้งานเกินพิกัดตามที่กำหนดโดยยิ่งสามารถยกสูงได้เท่าไรน้ำหนักจะน้อยลงด้วยเช่นกัน ตรวจสอบคันเร่งให้อยู่ในตำแหน่งปกติทั้งก่อนใช้งานและหลังใช้งาน ห้ามบิดกุญแจสตาร์ทรถยกสูงขณะกดคันเร่ง อย่าใช้แบตเตอรี่จนกระแสไฟต่ำเกินไป ถอดสายแบตเตอรี่ก่อนการตรวจเช็คระบบไฟฟ้า หากไม่ได้ยกงาสูงเป็นเวลานาน ให้ยกงาไปยังตำแหน่งสูงสุดหลาย ๆ ครั้ง เพื่อป้องกันสนิมที่จะเกิดบนแกนยกงา หากไม่ได้ใช้งาควรลดงาให้ลงต่ำเสมอพื้นอยู่เสมอ ห้ามเสียบกุญแจคาไว้ที่รถยกสูงขณะพักหรือทำการชาร์จแบตเตอรี่ ควรจัดทำช่องทางสำหรับการเดินรถยกไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ การใช้งานรถยกไฟฟ้าควรต้องมีการอบรมและศึกษาการใช้งาน และตรวจสอบสภาพรถยกไฟฟ้าก่อนการใช้งานทุกครั้งเพื่อให้การขับเคลื่อนธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่น นอกจากประโยชน์ที่กล่าวมาแล้วรถยกไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานพื้นที่ในคลังสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด และช่วยให้การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และถึงมือผู้รับปลายทางได้ตรงตามเวลาที่กำหนด ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง Jenstore by Jenbunjerd เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย รถยกไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ JUMBO ขนาด 1 ตัน 1.2 ตัน และ 1.5 ตัน ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด มีศักยภาพในการใช้งานในพื้นที่แคบ เหมาะสำหรับการยกสินค้า หรือเคลื่อนย้ายในระยะที่ไม่ไกลมาก และใช้งานกับแพลเลทแบบ Single-Face (หน้าเปิด) เท่านั้น พร้อมการรับประกันทั้งตัวเครื่องและแบตเตอรี่พร้อมทั้งบริการหลังการขายที่จะช่วยให้คำแนะนำการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถเข็น JUMBO แบรนด์มาตรฐานระดับโลกเคลื่อนย้ายได้ทุกอุตสาหกรรม

รถเข็น JUMBO แบรนด์มาตรฐานระดับโลกเคลื่อนย้ายได้ทุกอุตสาหกรรม รถเข็นที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ใครจะไปคิดว่าเครื่องมืออเนกประสงค์อย่างรถเข็นจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินธุรกิจ รถเข็นที่มีล้อเล็ก ๆ และมีด้ามจับจะเป็นเครื่องมือที่ใช้เคลื่อนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากได้ เป็นเครื่องทุ่นแรง อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยของพนักงานที่มีหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายสินค้า ไม่ให้เกิดการสะดุดในกระบวนการทำงาน สร้างความรวดเร็วต่อการแข่งขันให้กับธุรกิจช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เกิดอุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายรถเข็นเกิดขึ้นมากมาย JUMBO เป็นแบรนด์รถเข็นสัญชาติไทยที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี เน้นวัสดุคุณภาพสูง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แข็งแรง และทนทาน นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาออกแบบรถเข็นเพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายอุตสาหกรรม โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน รถเข็น JUMBO มีจำหน่ายหลายประเภทในหลายอุตสาหกรรม เช่น รถเข็นอุตสาหกรรม เป็นรถเข็นที่ต้องมีความแข็งแรง และทนทานต้องรองรับน้ำหนักและปริมาณสินค้าที่มีจำนวนมากได้ และต้องทนต่อสภาพแวดล้อมหรือสภาพของพื้นที่แตกต่างกันไป เช่น สภาพอากาศที่มีความร้อนและความเย็น ความชื้น สภาพพื้นที่มีสารเคมี กรด ด่าง หรือน้ำท่วมขัง รถเข็นที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมจะมีทั้งเคลื่อนย้ายสินค้าทั่วไปและขนย้ายสินค้าลักษณะเฉพาะ มีดังนี้ 1.1 รถเข็นอเนกประสงค์ ตามชื่อประเภทของรถเข็นก็บ่งบอกว่าสามารถใช้ในงานเคลื่อนย้ายได้หลายอุตสาหกรรม แต่ที่นิยมใช้ส่วนใหญ่คือในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะรถเข็นอเนกประสงค์สามารถขนย้ายได้ตั้งแต่เอกสารที่ใช้ในสำนักงาน อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ และสินค้าที่ถูกผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรถเข็นอเนกประสงค์จะมีการแบ่งออกเป็น 3 ชนิดตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต 1.1.1 รถเข็นเหล็ก เหมาะสำหรับเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเพราะพื้นของรถเข็นทำจากเหล็กเสริมแรง 2 แผ่นประกบกันเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทาน พร้อมปูแผ่นพีวีซีเพื่อกันลื่น ตัวรถเข็นพ่นด้วยสีฝุ่นอะคริลิกชนิด HYRRID อบความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศา จึงทนต่อการขีดข่วนได้ดี 1.1.2 รถเข็นสเตนเลสเหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสสารเคมีหรือความเปียกชื้น พื้นและมือจับผลิตจากสเตนเลสจึงทำความสะอาดง่ายและไม่เป็นสนิม 1.1.3 รถเข็นพลาสติก เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสความชื้น สารเคมี กรดด่าง แผ่นพื้นผลิตจากพลาสติกเกรดเอฉีดขึ้นรูปลายกันลื่น น้ำหนักเบา และแข็งแรง มือจับผลิตจากสเตนเลสคุณภาพดี ไม่เป็นสนิม 1.2 รถเข็นดอลลี่ เป็นรถเข็นที่มีแต่พื้นของรถเข็นเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสและมีล้อรถเข็น 4 ล้อติดตั้งทั้งสี่มุมซึ่งส่วนใหญ่มักนำมาใช้ในการขนย้ายสิ่งของหรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่โดยรถเข็นดอลลี่มีทั้งแบบพื้นเหล็กและพื้นพลาสติกโดยพื้นพลาสติกจะมีชนิดที่สามารถนำมาต่อกันได้ทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อใช้เคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่มากๆ ซึ่งจะมีอุปกรณ์เสริมคือมือจับดอลลี่เพื่อใช้ในการลากจูงและสามารถว่างซ้อนกันเพื่อจัดเก็บได้ 1.3 รถเข็นทรงสูง จะมีตะแกรงทรงสูงล้อมรอบทั้ง 3 ด้านเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมาก ๆ ได้ และสามารถแบ่งเป็นชั้น ๆ โดยใช้แผ่นแบ่งชั้นจะช่วยแบ่งสินค้าให้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการกระจายสินค้า เพิ่มความปลอดภัยด้วยการออกแบบให้มีราวเหล็กและมีสายรัดกันสิ่งของตกหล่น และเพื่อความสะดวกรถเข็นทรงสูงสามารถพับเก็บซ้อนกันได้ ทนทานต่อการกระแทกและสารเคมี รถเข็นสำหรับงานบริการ เป็นรถเข็นที่ใช้อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่งของเพื่อให้บริการลูกค้า เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร รถเข็นสำหรับงานบริการจะมีความโดดเด่นคือ จะไม่มีเสียงรบกวนขณะเข็น ไม่ทิ้งรอยล้อรถเข็นไว้บนพื้น และมักจะผลิตจากสเตนเลสเพื่อความทนทาน ไม่เป็นสนิม เพื่อความสะอาดถูกสุขอนามัยโดยเฉพาะรถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาล โดยรถเข็นบริการมีดังนี้ 2.1 รถเข็นสัมภาระ (รถเข็นผ้า) เป็นรถเข็นที่ให้บริการในโรงแรม ใช้ในการขนย้ายกระเป๋าเดินทาง สิ่งของต่าง ๆ ของลูกค้าที่มาใช้บริการซึ่งรถเข็นสัมภาระจะมีลักษณะหลากหลายรูปแบบมีทั้งแบบ 2 ล้อและ 4 ล้อ ส่วนใหญ่ผลิตจากสเตนเลสไม่เป็นสนิมง่าย รถเข็นบางรุ่นจะมีราวเพื่อแขวนเสื้อผ้าและมีราวกันตก พร้อมปูพรมที่พื้นเพื่อเพิ่มความสวยงาม ลดเสียงและกันการเสียดสีของสัมภาระ 2.2 รถเข็นโรงพยาบาล รถเข็นสเตนเลสทางการแพทย์ จะผลิตจากสเตนเลสเกรด 304 ขัดลาย ไม่เป็นสนิม มีความทนทาน มีทั้งแบบ 2 ชั้นและ 3 ชั้น พร้อมลิ้นชัก และราวกันตก ไว้สำหรับใช้ขนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น รถเข็นทำแผล รถเข็นฉีดยา สำลี ขวดน้ำเกลือ เป็นต้น 2.3 รถเข็นช้อปปิ้ง ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่าง ๆ รถเข็นช้อปปิ้งจะมี 3 แบบคือ แบบที่ 1 จะมีลักษณะคล้ายตะกร้าที่มีล้อและมีด้ามจับ ใช้ซื้อสินค้าที่มีขนาดใหญ่ของจำนวนมาก แบบที่ 2 เป็นรถเข็นช้อปปิ้งแบบพื้นตะแกรงใช้สำหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ และแบบที่ 3 รถเข็นใส่ตะกร้าสินค้าใช้สำหรับวางตะกร้าช้อปปิ้งซึ่ง 1 คันสามารถใส่ได้ 2 ตะกร้าใช้สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าจำนวนไม่มากและมีขนาดเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่รถเข็นช้อปปิ้งจะสามารถซ้อนคันได้ เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ และบางรุ่นจะมีที่นั่งสำหรับเด็กเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น 2.4 รถเข็นเก็บจานสเตนเลส สามารถใช้สำหรับงานโรงแรม ร้านอาหาร หรือโรงพยาบาลได้ ซึ่งโครงสร้างจะผลิตจากสเตนเลสเกรด 304 ไม่เป็นสนิม จะมีชั้นเพื่อเก็บจานมีราวกันตก และมีถังขยะเพื่อใส่เศษอาหาร บางรุ่นจะมีกล่องแขวนข้างตัวรถเข็นสำหรับใส่อุปกรณ์ซึ่งสามารถถอดออกได้หากไม่ต้องการใช้งาน รถเข็นเฉพาะทาง เป็นประเภทรถเข็นที่ใช้สำหรับขนย้ายสิ่งของบางชนิด หรือใช้สำหรับสิ่งแวดล้อมที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งจะมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปตามลักษะการใช้งานสามารถใช้ได้ทั้งเฉพาะอุตสาหกรรมและทุกอุตสาหกรรม ตัวอย่างของรถเข็นมีดังนี้ 3.1 รถเข็นไต่บันได เป็นรถเข็นที่ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายสินค้าที่ขึ้น-ลงบันไดจะมีลักษณะพิเศษที่ล้อรถเข็นโดยจะมี ล้อข้างละ 3 ลูกซึ่งมี 2 ข้างเพื่อความคล่องตัวในการเข็นขึ้นบันได โครงสร้างผลิตจากเหล็กพ่นสี จึงมีความแข็งแรงและทนทาน 3.2 รถเข็นถังแก๊ส เพื่อใช้เคลื่อนย้ายถังแก๊สให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โครงสร้างผลิตจากเหล็กพ่นสี จะมีฐานเพื่อรองรับก้นของถังแก๊สและมีตะแกรงเพื่อรองรับถังแก๊สเวลาเข็นพร้อมโซ่เพื่อล็อคไม่ให้ถังแก๊สตกหล่นระหว่างเคลื่อนย้าย 3.2 รถยกถังน้ำมัน 200 ลิตร เป็นรถเข็นถังน้ำมันที่สามารถยกถังน้ำมันและหมุนเพื่อเทได้มีลักษณะคล้ายรถเข็นถังแก๊สแต่จะไม่มีฐานรองรับแต่จะมีโครงเหล็กโค้งไปตามรูปทรงของถังน้ำมันและจะมีตัวหนีบถังน้ำมันซึ่งจะมีคันบังคับการหนีบและการคลายเพื่อล็อคไม่ให้ถังน้ำมันขยับ มีโซ่คล้องอีกครั้งเพื่อป้องกันการตกหล่นและสามารถปรับระดับของตัวหนีบได้ 3 ระดับ มีสลักเพื่อใช้ปลดล็อคการเคลื่อนที่ถังน้ำมันเพื่อให้อยู่ในองศาที่เทได้ รถเข็น JUMBO เป็นรถเข็นที่มีมาตรฐานระดับสากลมีรางวัลการันตีคุณภาพไม่ว่าจะเป็น Thailand Best จากเครือสหพัฒน์, Thailand's Brand จากสำนักส่งเสริมมูลค่าการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และ Thailand Trust Mark กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ รถเข็น JUMBO มีการส่งออกจำหน่ายมากกว่า 30 ประเทศ และมียอดขายที่ดีในยุโรปมากกว่า 20 ปี พร้อมการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
ปัจจัยในการเลือกซื้อรถเข็นที่ใช่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

ปัจจัยในการเลือกซื้อรถเข็นที่ใช่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม เลือกซื้อรถเข็นอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ถูกต้องและถูกใจ ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการจากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีความรวดเร็ว คล่องตัว โดยเฉพาะในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ วัตถุดิบ หรือสินค้า เป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการแข่งขันของธุรกิจ รถเข็นจึงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขนย้ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการเลือกซื้อรถเข็นเพื่อนำมาใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้เลือกซื้อได้ถูกต้องกับลักษณะของการใช้งาน เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมมีสภาพแวดล้อม ลักษณะสินค้า และความถี่ในการใช้งานที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการใช้งานของรถเข็นรวมไปถึงความคุ้มค่าที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนของผู้ประกอบการเช่นกัน ปัจจัยในการเลือกซื้อรถเข็นสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม! ประเภทของสินค้าหรืออุปกรณ์ มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะอุตสาหกรรมบางชนิดมีความเข้มงวดในมาตรฐานเช่น อุตสาหกรรมอาหารที่อุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ต้องป้องกันการปนเปื้อนทางกายภาพ ทางด้านจุลินทรีย์และทางด้านเคมีได้ ไม่เป็นสนิม รถเข็นสเตนเลสและรถเข็นพลาสติกจึงเหมาะสมในการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เพราะอุตสาหกรรมอาหารส่วนใหญ่จะต้องมีห้องแช่เย็นซึ่งมีอุณหภูมิติดลบตลอดเวลา รถเข็นที่ต้องนำมาใช้จึงต้องไม่เป็นสนิมและทนทานต่อความชื้นได้ หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้กับรถเข็นเฉพาะทางเพื่อความปลอดภัยในการขนย้ายอย่างรถเข็นถังแก๊ส ที่มีลักษณะทั่วไปเหมือนรถเข็น 2 ล้อแต่จะติดตั้งโซ่เพิ่มเติมเพื่อใช้ล็อคถังแก๊สไม่ให้ขยับ หรือรถยกถังน้ำมันแบบเทได้แต่จะมีการออกแบบพิเศษด้วยการติดตั้งตัวหนีบถังและระบบการเทแบบปลดสลักเข้าไปในรถเข็นเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตรงความต้องการ น้ำหนักของสินค้าหรืออุปกรณ์ ต้องเลือกรถเข็นที่สามารถรองรับน้ำหนักได้กับการใช้งาน โดยควรกำหนดน้ำหนักสูงสุดที่ต้องบรรจุไว้และบวกเพิ่มไปประมาณ 30% เช่น ต้องการให้รถเข็นรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 200 กิโลกรัม แต่รถเข็นที่เลือกซื้อควรมีน้ำหนักที่รองรับได้คือ 230 กิโลกรัมเป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และควรตรวจสอบกับผู้ขายถึงประเภทการรับน้ำหนักของรถเข็น สามารถรับน้ำหนักแบบ Dynamic load (จำนวนของน้ำหนักที่รับได้ขณะเคลื่อนที่) และแบบ Static load (จำนวนของน้ำหนักที่รับได้เมื่อไม่เคลื่อนที่) ได้หรือไม่เพราะมีผลต่อความรวดเร็วในการเคลื่อนที่ของรถเข็น รวมไปถึงประเภทของล้อรถเข็น ขนาดของล้อรถเข็น และวัสดุของล้อรถเข็นก็มีความสัมพันธ์กับการรองรับน้ำหนักของสินค้าด้วยเช่นกัน แต่หากต้องการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ๆ เพื่อความรวดเร็วและปลอดภัยก็ควรเลือกซื้อรถเข็นติดมอเตอร์จะเหมาะสมกว่าใช้รถเข็นที่เคลื่อนย้ายด้วยแรงของมนุษย์ ลักษณะทางกายภาพ ขนาดเล็ก-ใหญ่ และลักษณะทรงกลมหรือสี่เหลี่ยม มีผลต่อการเลือกซื้อรถเข็นเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายมีประสิทธิภาพมากที่สุด รถเข็นจึงมีการออกแบบเพื่อรองรับกับลักษณะทางกายภาพดังกล่าว เช่น ถังน้ำมันมีขนาดใหญ่และทรงกลมจึงออกแบบฐานให้เป็นครึ่งวงกลมเพื่อให้รองรับกับรูปร่างของวัตถุสร้างความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายมากยิ่งขึ้น รถเข็นดอลลี่บางรุ่นที่สามารถนำมาต่อกันเพื่อขยายพื้นที่ให้สามารถเคลื่อนย้านสินค้าที่มีขนาดใหญ่ ๆ หรือมีจำนวนมากได้ หรือรถเข็นอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ จุดประสงค์รองในการใช้งาน แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักในการใช้งานรถเข็นคือการเคลื่อนย้ายแต่เคลื่อนย้ายเพื่อทำอะไรและลักษณะการขนย้ายเป็นอย่างไรนั้นคือสิ่งที่จะช่วยกำหนดว่าควรเลือกซื้อรถเข็นประเภทใด เพราะลักษณะการใช้งานของรถเข็นแต่ละประเภทมีจุดประสงค์รองที่แตกต่างกัน โดยหากต้องการเคลื่อนย้ายเพื่อจัดเก็บสินค้าหรือกระจายสินค้าก็ควรเลือกใช้รถเข็นทรงสูงหรือรถเข็นเบิกจ่ายในสโตร์ เพราะในรถเข็นสามารถแบ่งแยกหมวดหมู่สินค้าเพื่อให้กระจายสินค้าได้เร็วขึ้น หรือต้องการพกพารถเข็นเพื่อความสะดวกในการใช้งานอาจต้องเลือกซื้อรถเข็นพับได้, รถเข็นอเนกประสงค์ที่พับมือจับได้ เป็นต้น สถานที่และลักษณะพื้น ภายในอาคาร กลางแจ้ง ลักษณะของพื้นทั้งราบเรียบ ขรุขระ น้ำท่วมขัง เปียกชื้น มีสารเคมี กรด ด่าง หรือวัสดุของพื้น พื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นคอนกรีต มีผลต่อการเลือกใช้รถเข็นด้วยประสิทธิภาพในการนำไปใช้งานอาจลดลงจากการเลือกซื้อประเภทของรถเข็นที่ไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะล้อรถเข็นที่ต้องสัมผัสกับพื้นโดยตรง ดังนั้นหากต้องการซื้อรถเข็นเราควรทราบถึงคุณสมบัติวัสดุของล้อรถเข็นแต่ละประเภทเพื่อที่จะได้เลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง เช่น ล้อรถเข็นยูรีเทน มีความทนทานสูง ไม่ทิ้งรอยบนพื้น และไม่ยุบตัวแม้จะต้องรองรับน้ำหนักอยู่นิ่ง ๆ เป็นเวลานาน สามารถใช้กับพื้นที่ผิวขรุขระหรือแหลมคมได้, ลูกล้อไนลอน มีความแข็งแรง มีความคล่องตัว ไม่เกิดการยุบตัว ไม่ทิ้งคราบรอยบนพื้น เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่กลางแจ้ง พื้นที่ขรุขระ เช่น พื้นผิวคอนกรีต พื้นกระเบื้อง และยังทนทานต่อความร้อน, ความเย็น, สารเคมีและการกัดกร่อนได้ดีจึงสามารถใช้งานบนพื้นเปียกหรือที่น้ำขังได้ นอกจากนั้นยังมีลักษณะพื้นที่เป็นขั้นบันได ควรเลือกใช้รถเข็นไต่บันไดเพราะถูกออกแบบมาเพื่อให้เคลื่อนย้ายในพื้นที่ลักษณะดังกล่าวได้โดยเฉพาะ ระยะทางใกล้-ไกล เป็นอีกหนึ่งหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อเลือกรถเข็น ซึ่งระยะทางในการขนย้ายมีผลต่อจำนวนล้อของรถเข็นเพราะหากต้องการคล่องตัว และพื้นที่ในการขนย้ายแคบ ให้ใช้รถเข็น 2 ล้อ แต่หากต้องการความแข็งแรง และทุ่นแรงในการขนย้ายในระยะทางที่ไกลมาก ๆ ใช้รถเข็น 4 ล้อ เพื่อเป็นการกระจายน้ำหนักของสินค้าได้ดีส่งผลให้รถเข็นเคลื่อนย้ายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ความถี่ ยิ่งใช้งานบ่อยรถเข็นก็ยิ่งเสื่อมคุณภาพตามความถี่ในการใช้งาน รถเข็นจึงต้องมีความแข็งแรงและทนทานทั้งโครงสร้างและล้อของรถเข็นเพราะต้องรองรับน้ำหนักของสิ่งของและการเคลื่อนย้ายตลอดเวลา ดังนั้นรถเข็นควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานในการผลิตจะช่วยให้ได้รถเข็นที่มีประสิทธิภาพทนทานต่อการใช้งานที่จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีความต่อเนื่องโดยไม่สะดุด ปัจจัยทั้ง 7 ข้อเป็นปัจจัยที่จะช่วยในการตัดสินใจซื้อรถเข็นให้เหมาะสมกับการใช้งานและมีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งการเลือกซื้อรถเข็นได้เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยลดความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับพนักงานและสินค้า ช่วยไม่ให้เกิดความสูญเปล่าของธุรกิจได้ ช่วยให้ธุรกิจมีผลกำไรและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากการเลือกซื้อที่ถูกต้องกับการใช้งานแล้วควรเลือกซื้อรถเข็นจากแบรนด์ที่ได้การรับรองมาตรฐาน มีการรับประกันสินค้า และบริษัทหรือร้านค้าที่จัดจำหน่ายที่มีบริการหลังการขาย เพื่อเป็นการการันตีคุณภาพของรถเข็นที่ผู้ประกอบการควรจะได้รับ Jenstore by Jenbunjerd ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถเข็นคุณภาพแบรนด์ JUMBO ที่มีรถเข็นให้เลือกใช้งานได้หลายประเภท เช่น รถเข็นอเนกประสงค์, รถเข็นพับได้, รถเข็นสแตนเลส, รถเข็นไต่บันได, รถเข็นช้อปปิ้ง รถเข็นทำความสะอาด เป็นต้น ซึ่งได้รับการการันตีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมโดยได้รับสิทธิให้ใช้ "Thailand Trust Mark" จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รถเข็น JUMBO ผลิตจากเหล็กเกรดสำหรับยานยนต์ แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มพิกัด มีความคล่องตัว รวดเร็ว และไม่เกิดรอยบนพื้นด้วยล้อคุณภาพสูง มีการจำหน่ายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก พร้อมการรับประกันและบริการหลังการขายที่ใส่ใจทุกความต้องการของลูกค้า ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
Check List อุปกรณ์จัดเก็บในคลังสินค้า ที่ควรต้องมี!

Check List อุปกรณ์จัดเก็บในคลังสินค้า ที่ควรต้องมี! พาเลท, ลังพลาสติก, ชั้นวางสินค้า อุปกรณ์ที่ช่วยจัดเก็บอย่างมีประสิทธิภาพ คลังสินค้าเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งมีปริมาณมากจึงต้องมีการจัดระบบและระเบียบเพื่อให้สะดวกในการใช้งาน และสามารถใช้พื้นที่ในคลังสินค้าได้มีประสิทธิภาพสูงสุด พาเลท, กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ถังพลาสติก และชั้นวางสินค้า เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบให้เป็นระบบระเบียบ นอกจากนั้นยังช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าหรือวัตถุดิบไม่ให้เสื่อมสภาพจากความร้อนหรือไม่ให้เกิดการปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตรายได้ และยังป้องกันฝุ่นและแมลง สัตว์ที่อาจเข้ามากัดแทะสินค้าหรือวัตถุดิบได้อีกด้วย ด้วยประโยชน์มากมายในการจัดเก็บ เรามาทำความรู้จักเพิ่มเติมกับอุปกรณ์จัดเก็บเพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด อุปกรณ์จัดเก็บในคลังสินค้า อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ พาเลท เป็นอุปกรณ์ที่คลังสินค้าจะต้องมีเพราะใช้สำหรับวางสินค้าเพื่อขนย้ายหรือจัดเก็บสินค้า ลักษณะของพาเลทจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสมีช่องใต้พาเลทเพื่อให้รถลากพาเลท หรือรถยกสูงใช้งาเสียบเข้าไปที่พาเลทเพื่อยก-ย้ายสินค้า ทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการขนย้ายมากยิ่งขึ้น พาเลทที่ใช้ในคลังสินค้ามี 4 ชนิดคือ พาเลทไม้ เป็นพาเลทที่ถูกใช้มานาน เนื่องด้วยเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักได้เป็นจำนวนมาก ได้ มีราคาถูก และสามารถนำกลับมาซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่เนื่องจากเป็นไม้ที่เป็นวัสดุธรรมชาติจึงเกิดการแตกหักได้ง่ายโดยสาเหตุอาจเกิดจากการเสื่อมสภาพของไม้ แมลงเจาะทำลายเนื้อไม้ ติดไฟง่าย ตะปูหลุดหรือเกี่ยวสินค้าเสียหายได้ และมีคุณสมบัติที่กักเก็บความชื้นจึงอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ ดังนั้นการเก็บรักษาพาเลทไม้ควรต้องเก็บรักษาไว้ในที่แห้งเสมอ พาเลทพลาสติก นิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพราะดูแลรักษาง่าย มีความแข็งแรงทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา ไม่เกิดเชื้อรา มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่หากเสียหายมาซ่อมแซมไม่ได้แต่สามารถนำมารีไซเคิลได้ พาเลทพลาสติกจะมีราคาที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับพาเลทไม้แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า พาเลทกระดาษ เป็นพาเลทที่ใช้แล้วทิ้ง มักทำจากแผ่นใยไม้อัดลูกฟูก พื้นไม้บางส่วนหรือกระดาษ มีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับให้เหมาะกับการใช้งานได้ เหมาะสำหรับงานทางการแพทย์, ยารักษาโรค หรืออุตสาหกรรมอาหาร ปัจจุบันพาเลทกระดาษได้มีการพัฒนาให้มีการเคลือบกันน้ำเพื่อป้องกันความชื้นโดยที่ยังสามารถนำมารีไซเคิลได้ พาเลทโลหะ ผลิตจากเหล็กผลิตขึ้นมาเพื่อลบจุดด้อยของพาเลทไม้และพาเลทพลาสติก คุณสมบัติเด่นของพาเลทโลหะมีอายุการใช้งานยาวนาน ทนไฟ หมดกังวลเรื่อง ปลวก มอด แมลงกิน เหมาะสำหรับวางสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่มีน้ำหนักมากและมีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อวางชิ้นส่วนรถยนต์, อะไหล่รถยนต์ เป็นต้น กล่องพลาสติก เป็นอุปกรณ์จัดเก็บที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะจัดเก็บสินค้า วัตถุดิบ อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ กล่องพลาสติกจะมีทั้งแบบใสและแบบทึบ แบบใสนิยมใช้เก็บสินค้าที่ต้องมีการใช้งานบ่อย ๆ เพราะง่ายต่อการมองเห็นสิ่งของด้านใน ส่วนกล่องพลาสติกแบบทึบอาจนำมาจัดเก็บสินค้าที่เลื่อมสภาพได้ง่ายเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ ซึ่งกล่องพลาสติกจะมีหลายขนาดให้เลือกใช้งานจึงรองรับสิ่งของที่มีขนาดแตกต่างกันได้ อีกทั้งยังมีฝาปิดเพื่อป้องกันสัตว์หรือแมลงเข้ามาทำลายสินค้ารวมทั้งยังช่วยป้องกันฝุ่นละออง บางรุ่นของกล่องพลาสติกติดตั้งล้อเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการเคลื่อนที่อีกด้วย ลังพลาสติก ช่วยสร้างความเป็นระเบียบในการจัดเก็บสินค้า แบ่งสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ ทำให้มีความสะดวกในการใช้งาน และเคลื่อนย้ายสินค้าได้คล่องตัว ลังพลาสติกที่ใช้งานในคลังสินค้ามีหลายประเภทเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในทุกอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น ลังพลาสติกพับได้สีใส ข้อดีคือสามารถมองเห็นสินค้าที่อยู่ด้านใน เหมาะกับการแยกประเภทสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ทำให้ง่ายต่อการค้นหาและเหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักไม่มาก ด้านบนฝาจะเป็นแบบซิกแซกเปิดใช้งานสะดวก หากวางซ้อนกันสามารถเปิดด้านข้างของลังพลาสติกเพื่อหยิบสินค้าโดยไม่ต้องยกลังพลาสติกที่ซ้อนกันทำให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และมีสลักปลดล็อคจึงสามารถพับเก็บได้ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บเมื่อไม่ใช้งาน ลังพลาสติกกระจายสินค้า มีความสะดวกในการเคลื่อนย้ายโดยมีมือจับในตัว สามารถจัดเก็บสินค้าได้ทุกขนาดในทุกอุตสาหกรรม สามารถเรียงซ้อนกันได้เพื่อความเป็นระเบียบและยังช่วยประหยัดพื้นที่ในคลังสินค้าหรือการจัดส่ง ลักษณะของฝาลังพลาสติกจะเป็นรูปซิกแซกจึงสามารถเปิดเช็คสินค้าได้ง่าย ลังพลาสติกแบบโปร่ง ลักษณะจะมีรูระบายรอบลังพลาสติกทำให้มีอากาศถ่ายเท ทนต่ออุณหภูมิร้อน-เย็นได้ดี สามารถใช้งานได้หลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น พืช ผัก ผลไม้ ซึ่งบางรุ่นจะสามารถวางซ้อนกันได้โดยที่สินค้าหรือวัตถุดิบด้านล่างไม่เสียหาย หรือบางรุ่นสามารถพับเก็บได้จึงประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ ลังพลาสติกแบบทึบพร้อมฝาปิด มักใช้เก็บสินค้า วัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ที่ต้องการการป้องกัน เพราะสามารถป้องกันฝุ่น แมลง ที่อาจทำให้สินค้าหรืออุปกรณ์ปนเปื้อนหรือเสียหายได้ หรือมักใช้เก็บสินค้าหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ลังอเนกประสงค์ เป็นลังพลาสติกขนาดใหญ่ ที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก ใช้งานได้กับรถยกสูงทุกประเภท มีล้อ 4 ล้อเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนที่และใช้เคลื่อนย้ายสินค้าในระยะใกล้ มักนำไปจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบจำพวก น้ำตาล, เกลือ, เมล็ดธัญพืช, แป้ง, อาหารแห้ง หรือเครื่องเทศ เป็นต้น ชั้นวางสินค้า เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะชั้นวางสินค้าช่วยให้การใช้พื้นที่ในคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบในแนวดิ่งได้ทำให้เพิ่มปริมาณสินค้าหรือวัตถุดิบในการจัดเก็บได้โดยที่ขนาดพื้นที่เท่าเดิม นอกจากนั้นชั้นวางสินค้ายังช่วยจัดเก็บสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ช่วยให้ง่ายและรวดเร็วในการเคลื่อนย้าย ชั้นวางสินค้าส่วนใหญ่มักผลิตจากเหล็กเพราะมีความแข็งแรงในการรองรับน้ำหนัก ซึ่งอาจมีเพิ่มกระบวนการพิเศษในการผลิตเพื่อเพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เช่น เหล็กเคลือบ Silver Vein ป้องกันการเป็นสนิม, เหล็กชุบโครเมียมเพื่อให้เกิดความเงางามและแข็งแรงทนทาน ชั้นวางสินค้ามักปรับระดับความสูงของชั้นวางได้เพื่อรองรับขนาดของสินค้าที่มีความแตกต่างกันและมีแผงตะแกรงด้านหลังเพื่อป้องกันการตกหล่นได้ บางรุ่นของชั้นวางสินค้าสามารถ Knock-Down ได้ง่ายต่อการประกอบอีกด้วย ถังพลาสติก ส่วนใหญ่มักใช้เก็บสินค้าหรือวัตถุดิบที่เป็นของเหลว เป็นผง หรือต้องนำมาแช่แข็ง เพราะมีความแข็งแรง ทนทานทั้งความเย็น สารเคมี กรด ด่าง หรือความชื้น ถังพลาสติกที่ใช้ในคลังสินค้ามีหลายประเภทเพื่อให้รองรับกับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ถังพลาสติกหล่อเนื้อแข็ง อัดด้วยโฟม พร้อมมีรูระบายและฝาปิดเหมาะสำหรับใส่สิ่งของที่ต้องการความเย็นเพื่อรักษาความสดใส, ถังพลาสติกแบบกลมที่มีฝาปิดสำหรับใส่สารเคมีทั่วไปทั้งแบบผงหรือของเหลว ด้านข้างของถังมักจะมีช่องเพื่อให้จับยกได้สะดวก พาเลท,กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ถังพลาสติก, ชั้นวางสินค้า ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่เรามักคุ้นเคยและนำมาใช้งานเพื่อจัดเก็บสิ่งของอยู่เสมอ แต่การเลือกอุปกรณ์ดังกล่าวมาใช้ในคลังสินค้าต้องคำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยในการใช้ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง Jenstore by Jenbunjerd ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์จัดเก็บ ยก ย้าย ที่ครบวงจร จากแบรนด์ชั้นนำที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ที่มีทั้งความแข็งแรง ทนทาน และช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้ถึง 75% ตัวอย่างอุปกรณ์จัดเก็บที่มีจำหน่าย เช่น ชั้นวางสินค้า, ชั้นวางอเนกประสงค์, ชั้นวางของเหล็ก, กล่องพลาสติก, ลังพลาสติก, ถังพลาสติก, พาเลทพลาสติก พร้อมให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายอย่างมืออาชีพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
รถเข็นที่ต้องมีในงานก่อสร้าง สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

รถเข็นที่ต้องมีในงานก่อสร้าง สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยรถเข็นคืออุปกรณ์ที่ช่วยลดเวลาในการก่อสร้างที่ง่ายในการใช้งานไซต์งานก่อสร้างเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัสดุและอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคาร บ้านเรือน หรือโรงงานอุตสาหกรรม จึงต้องมีความรวดเร็วในการขนย้ายเพื่อให้การก่อสร้างเสร็จตามเวลาที่กำหนด รถเข็นก่อสร้างจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบรรทุกวัสดุก่อสร้างและเป็นเครื่องทุ่นแรงสำหรับคนงาน ยกตัวอย่างเช่น รถเข็นปูนเป็นรถเข็นที่ถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในไซต์ก่อสร้างโดยเฉพาะ จึงมีความแข็งแรง ทนทานที่จะรองรับการบรรทุกวัสดุก่อสร้างที่หนักและสภาพพื้นที่ขรุขระรวมไปถึงพื้นที่ที่มีจำกัด รถเข็นปูนส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กพ่นสีจึงไม่เป็นสนิมทำความสะอาดได้ง่าย รถเข็นปูนไม่ได้มีไว้เพื่อบรรทุกปูนเท่านั้นยังสามารถใช้ในการบรรทุก อิฐ หิน ดิน ทราย และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากรถเข็นปูนแล้วยังมีรถเข็น 2 ล้อที่ใช้ในการขนย้ายสิ่งของทั่วไป เช่น ถุงปูน หรือวัสดุก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ ช่วยสร้างให้การขนย้ายเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น มาทำความรู้จักกับรถเข็นปูนและรถเข็น 2 ล้อผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้างให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นรถเข็นปูนและรถเข็น 2 ล้อแรงงานสำคัญในการขนย้ายรถเข็นปูน เป็นรถเข็นงานก่อสร้างที่เห็นได้บ่อยลักษณะที่โดดเด่นของรถเข็นปูน รถเข็นปูนมีลักษณะเป็นถาดกระบะก้นลึก มีทั้งเหล็กหรือพลาสติกชนิดหนา ซึ่งกระบะเหล็กผลิตจากแผ่นเหล็กปั๊มขึ้นรูปหรือการตัดพับขึ้นรูปและชุบสีเพื่อป้องกันการเกิดสนิม ส่วนกระบะพลาสติกผลิตจากพลาสติกโพลีเอทิลีน (PE) มีคุณสมบัติหนา เหนียว ทนแดด ทนฝน และทนแรงกระแทกได้ดี ไม่เป็นสนิม โครงของรถเข็นจะทำจากเหล็กมีด้ามจับสำหรับควบคุมทิศทางและมีขาตั้งสำหรับพักรถจะยึดติดกับกระบะ จะมีล้อรถเข็นเพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ซึ่งรถเข็นปูนมีทั้งรถเข็นปูนล้อเดี่ยวและรถเข็นปูนล้อคู่ และมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน ลักษณะการใช้งาน รถเข็นปูนล้อเดี่ยวเป็นรถเข็นปูนที่ใช้กับลักษณะพื้นที่ที่แคบเพราะรถเข็นปูนล้อเดี่ยวจะมีความคล่องตัวในการเลี้ยว แต่ผู้ใช้งานต้องออกแรงในการรับน้ำหนักจากการบรรทุกและการควบคุมทิศทางในการเคลื่อนที่มากยิ่งขึ้น สำหรับรถเข็นปูนล้อคู่ไม่สามารถวิ่งในพื้นที่หรือเส้นทางแคบ ๆ ได้ แต่รองรับน้ำหนักและควบคุมทิศทางได้ดีจึงทุ่นแรงผู้ใช้งานได้มากกว่ารถเข็นปูนล้อเดี่ยว ข้อคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อรถเข็นปูนขนาดของรถเข็นปูน จะมีความสัมพันธ์กับขนาดของพื้นที่เพราะรถเข็นปูนล้อเดี่ยว หรือล้อคู่ ขนาดพื้นที่ในการใช้งานแตกต่างกัน ซึ่งรวมไปถึงขนาดความจุของกระบะรถเข็นปูนที่บ่งบอกถึงปริมาณที่จะเข็นได้ในแต่ละครั้ง ว่ามีความเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ก่อสร้างหรือคำนึงถึงกระบวนการทำงานว่ารถเข็นก่อสร้างทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้นหรือไม่มาตรฐาน รถเข็นปูนเป็นรถเข็นงานก่อสร้างที่ต้องรองรับน้ำหนักค่อนข้างมาก อีกทั้งต้องถูกใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด เช่น ลักษณะของพื้นที่ไม่ราบเรียบ ดังนั้นวัสดุ เช่น โลหะ น็อต ล้อรถเข็นจึงต้องมีคุณภาพ รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตเช่นการประกอบหรือการขึ้นรูปโลหะจะต้องมีมาตรฐาน เพื่อให้รถเข็นปูนมีประสิทธิภาพที่ดีเหมาะสมในการทำงาน มีอายุการใช้งานอย่างยาวนาน และมีความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ใช้งานความรวดเร็วและคล่องตัว อุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยให้รถเข็นปูนมีความรวดเร็วและคล่องตัวคือล้อรถเข็น ล้อยางตันเป็นชนิดของล้อที่มักนำมาใช้ในรถเข็นปูนซึ่งเป็นล้อที่ไม่มียางนอกแต่ใส่ล้อแม็ก ยางในเป็นเนื้อยางโพลียูรีเทนซึ่งจะช่วยให้มีความยืดหยุ่นไม่แข็งกระด้างซึ่งช่วยลดแรงกระแทก สามารถใช้งานได้ทุกสภาพผิว เช่น พื้นขรุขระ พื้นหินกรวด และไม่ต้องกังวลเรื่องยางรั่วจากตะปู มีอายุการใช้งานที่ยาวนานราคาที่เหมาะสม ควรทำการพิจารณาจากวัสดุและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ว่ามีคุณภาพเหมาะสมกับราคาหรือไม่ รวมไปถึงมาตรฐาการผลิตที่รถเข็นปูนควรที่จะต้องมีเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน ไม่ควรเลือกซื้อรถเข็นปูนโดยพิจารณาจากราคาเพียงอย่างเดียวเพราะอาจได้รถเข็นปูนที่ไม่มีคุณภาพและมาตรฐานในการใช้งานรถเข็น 2 ล้อ ลักษณะของรถเข็น 2 ล้อ รถเข็น 2 ล้อ เป็นรถเข็นงานก่อสร้างที่มีโครงสร้างที่ยาวเพื่อรองรับสิ่งของที่มีความสูงหรือใหญ่พร้อมด้วยด้ามจับ มีฐานเพื่อรองรับน้ำหนักของสิ่งของซึ่งบางรุ่นสามารถขยายพื้นที่ของฐานได้ รถเข็น 2 ล้อมีทั้งผลิตจากเหล็กและอะลูมิเนียม ประเภทของล้อเป็นล้อยางตันที่สามารถทนทานต่อการเจาะทะลุของตะปู หรือของแหลมที่มักพบในไซต์ก่อสร้างได้ ลักษณะการใช้งาน ใช้ในการขนย้ายสิ่งของทั่วไปโดยเฉพาะสิ่งของที่มีลักษณะแนวยาวหรือมีขนาดใหญ่ ช่วยให้มีความคล่องตัวในการขนย้ายโดยเฉพาะในพื้นที่แคบ ๆ เพราะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาข้อคำนึงในการเลือกซื้อรถเข็น 2 ล้อความหนาของวัสดุและความแข็งแรงของโครงสร้าง เพราะเป็นส่วนที่ต้องรองรับน้ำหนักของสิ่งของที่ต้องขนย้าย ซึ่งโครงสร้างของรถเข็น 2 ล้อส่วนใหญ่จะทำจากเหล็กและอะลูมิเนียม ความหนาของวัสดุทั้งสองจะบ่งบอกถึงความแข็งแรงในการรับน้ำหนักได้ ยิ่งหากเหล็กผ่านกระบวนการป้องกันการเกิดสนิม เช่น การพ่นสี จะยิ่งเพิ่มความแข็งแรงในการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นพื้นที่ในการใช้งาน หากไซต์ก่อสร้างมีพื้นที่ขนาดเล็กหรือแคบ รถเข็น 2 ล้อสามารถขนย้ายสิ่งของในพื้นที่ดังกล่าวได้เพราะมีขนาดเล็กมีความคล่องตัวในการเลี้ยวหรือการเคลื่อนที่ล้อรถเข็น ล้อรถเข็นที่ใช้ในไซต์ก่อสร้างต้องมีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะพื้น เพราะสภาพพื้นในไซต์ก่อสร้างเป็นอุปสรรคในการเคลื่อนที่ ทั้งขรุขระ มีกรวดหิน หรือตะปู และของแหลมคมจะทำให้ล้อรถเข็นเสียหายได้ง่ายการใช้งานรถเข็นก่อสร้างทั้ง 2 ชนิดทั้งรถเข็นปูน หรือรถเข็น 2 ล้อช่วยให้กระบวนการก่อสร้างมีทั้งประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลช่วยให้อุตสาหกรรมอสังริมทรัพย์เติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการเลือกซื้อรถเข็นทั้ง 2 ชนิดควรพิจารณาถึงลักษณะในการใช้งานและความคุ้มค่าให้มากที่สุด Jenstore by Jenbunjerd ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์เคลื่อนย้ายภายใต้แบรนด์ JUMBO ที่ผลิตรถเข็นจากเหล็กเกรดยานยนต์คุณภาพสูง ที่ครอบคลุมทุกการใช้งานในทุกอุตสาหกรรม โดยมีรถเข็นให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น รถเข็นงานก่อสร้าง รถเข็น 2 ล้อ, รถเข็นอเนกประสงค์, รถเข็นช้อปปิ้ง, รถเข็นพับได้ ฯลฯ นอกจากนี้ยังรับสั่งทำรถเข็นสเตนเลสและรถเข็นเหล็กทุกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้มากที่สุด พร้อมทั้งทีมงานบริการหลังการขายที่พร้อมบริการ รวมไปถึงสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงจุดติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ :Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected]บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
ประเภทของรถเข็นที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค

ประเภทของรถเข็นที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มมูลค่าของธุรกิจด้วยรถเข็นที่มีดีมากกว่าขนย้าย สินค้าอุปโภคบริโภคมักเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นประเภทสินค้าที่ใช้แล้วหมดไปต้องมีการซื้อซ้ำ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ มีการซื้อขายอย่างรวดเร็วและมีราคาถูกจากต้นทุนที่ต่ำ การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคจึงมีปริมาณมากเพื่อควบคุมต้นทุนให้เป็นไปตามแผนการตลาดและต้องมีการกระจายสินค้าไปยังตัวแทนจำหน่าย ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าอย่างรวดเร็ว รถเข็นจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่เข้ามาช่วยให้การขนย้ายเกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ทันต่อความต้องการในการจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งรถเข็นที่ใช้ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้มีแค่ใช้ในคลังสินค้าหรือจุดกระจายสินค้าเท่านั้น แต่ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าก็มีการจัดเตรียมรถเข็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เข้ามาช่วยสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายของธุรกิจ ประเภทของรถเข็นที่นิยมนำมาใช้ในธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค รถเข็นบริการสำหรับผู้บริโภค มักถูกนำมาใช้ในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า รถเข็นช้อปปิ้ง เป็นรถเข็นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์จากฟังก์ชั่นการใช้งานแล้วยังมีประโยชน์ในทางการตลาดสำหรับร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า เพราะการมีรถเข็นช้อปปิ้งช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าทำให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น รถเข็นช้อปปิ้งมีด้วยกัน 3 ชนิด รถเข็นช้อปปิ้งแบบลังตะแกรง เป็นประเภทของรถเข็นที่นิยมใช้มากที่สุดมีลักษณะเหมือนตะกร้าที่เคลื่อนที่ได้ สามารถบรรจุสินค้าได้จำนวนมาก ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รถเข็นช้อปปิ้งแบบลังตะแกรงเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นที่นั่งสำหรับเด็กบนรถเข็นและสามารถซ้อนเก็บได้เมื่อไม่ใช้งานจึงประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ รถเข็นสำหรับใส่ตะกร้าช้อปปิ้ง ใช้สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากหรือไม่ได้มีขนาดใหญ่จนขนาดต้องใช้รถเข็นช้อปปิ้งแบบลังตะแกรง แต่ผู้ประกอบการก็ยังต้องการให้ลูกค้ามีความสะดวกในการซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น จึงได้มีรถเข็นสำหรับใส่ตะกร้าช้อปปิ้งเพื่อให้สะดวกมากยิ่งขึ้นในการเลือกซื้อสินค้า รถเข็นช้อปปิ้งแบบพื้นตะแกรง เป็นรถเข็นที่ใช้ในการขนย้ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากจะไม่ได้มีลังตะแกรงเหมือนรถเข็นแบบลังตะแกรง แต่จะมีลักษณะเป็นพื้นตะแกรงและมีช่องใส่สินค้าที่มีขนาดเล็กอยู่ด้านบน รองรับน้ำหนักได้ถึง 500 กิโลกรัม ส่วนใหญ่ใช้ในการขนย้ายวัสดุก่อสร้าง, เฟอร์นิเจอร์ หรือของแต่งบ้าน รถเข็นช้อปปิ้งแบบพื้นตะแกรงยังสามารถซ้อนเก็บได้เพื่อประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ รถเข็นขนย้ายสำหรับผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่จะใช้ในคลังสินค้า จุดกระจายสินค้า หรือร้านค้าและห้างสรรพสินค้า รถเข็น 4 ล้อ เป็นรถเข็นอเนกประสงค์ที่ใช้ในการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการในการขนย้ายสินค้า รถเข็น 4 ล้อสามารถใช้ในการขนย้ายสินค้าเพื่อจัดเก็บหรือกระจายสินค้าในคลังสินค้าหรือเติมสินค้าในชั้นวางสินค้าในร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าเพื่อให้ลูกค้าได้จับจ่ายใช้สอย รถเข็น 4 ล้อมีด้วยกัน 3 ประเภท รถเข็นเหล็ก เป็นรถเข็นที่มีโครงสร้างเป็นเหล็กและรวมไปถึงพื้นของรถเข็น เหมาะกับการขนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, วัสดุตกแต่งบ้าน ฯลฯ รถเข็นบางรุ่นเสริมความแข็งแรงด้วยการเสริมคานเหล็กคู่และเทคโนโลยีปั้มขึ้นรูปโลหะ พร้อมปูพื้นด้วยแผ่นพีวีซีกันลื่น ขอบของพื้นรถเข็นจะติดตั้งขอบยางเพื่อป้องกันการกระแทก และมือจับพับเก็บได้ รถเข็นสเตนเลส ใช้กับงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือความเปียกชื้น เช่น อาหารแช่แข็ง, ของสด เพราะสเตนเลสไม่ก่อให้เกิดสนิม ทำความสะอาดง่าย มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี บางรุ่นจะมีขอบกันตกช่วยป้องกันสิ่งของตกหล่นได้ รถเข็นพลาสติก พื้นของรถเข็นทำจากพลาสติกจึงเหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสความชื้น สารเคมี กรดหรือด่าง มือจับทำจากสเตนเลส ไม่เป็นสนิม แต่รับน้ำหนักในการขนย้ายสินค้าได้น้อยกว่ารถเข็นเหล็กและรถเข็นสเตนเลส สามารถใช้ควบคู่กับรถเข็นสเตนเลสได้ รถเข็นทรงสูง เป็นรถเข็นที่สามารถขนย้ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่และสามารถแบ่งหมวดหมู่ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บหรือรวดเร็วต่อการจัดเรียงในชั้นวางสินค้า รถเข็นทรงสูงผลิตจากเหล็กที่เพิ่มความแข็งแรงด้วยการพ่นสีหรือชุบซิงค์เพื่อกันสนิม จะมีตะแกรงทั้ง 3 ด้านเพื่อป้องกันการตกหล่นของสินค้าและเพื่อใช้เป็นที่ยึดของแผ่นแบ่งชั้นเพื่อแบ่งหมวดหมู่ของสินค้า เมื่อใช้งานเสร็จแล้วสามารถถอดชั้นแบ่งออกได้และพับเก็บตะแกรงซ้อนกันเป็นรูปฉากทั้ง 3 ด้านได้เพื่อให้สะดวกและประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ รถเข็นดอลลี่ มีลักษณะเหมือนพื้นรถเข็น 4 ล้อแต่ไม่มีมือจับ มักนำมาใช้ในคลังสินค้า พื้นทำจากเหล็กและพลาสติกโดยรถดอลลี่ที่ทำจากพลาสติกบางรุ่นสามารถยึดติดกันได้เพื่อขยายพื้นที่ในการรองรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ให้สามารถเคลื่อนย้ายไปได้สะดวก ซึ่งรถเข็นดอลลี่ที่ผลิตจากเหล็กจะสามารถรับน้ำหนักสินค้าได้ถึง 500 กิโลกรัมจึงใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ๆ ได้ ส่วนรถเข็นดอลลี่พลาสติกจะเหมาะใช้กับงานที่ต้องสัมผัสความชื้น สารเคมี กรด และด่าง และรับน้ำหนักได้น้อยกว่ารถเข็นดอลลี่แบบเหล็ก รถเข็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค รถเข็นเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่เพิ่มโอกาสในการแข่งขันของธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค การกระจายสินค้าของผู้ประกอบการที่มีรถเข็นเข้ามาเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนทำให้การดำเนินธุรกิจมีความรวดเร็ว เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้สินค้าอุปโภคบริโภคมียอดขายและเติบโตได้ด้วยสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไปต้องซื้อซ้ำ และครอบคลุมทุกช่วงอายุจึงมีสินค้าทดแทนเป็นจำนวนมาก ยิ่งส่งผลให้การแข่งขันในตลาดสูงเพิ่มขึ้น นอกจากความรวดเร็วของรถเข็นแล้ว รถเข็นยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจที่ดี ทั้งด้านแรงงานที่ช่วยลดจำนวนพนักงานในการขนย้ายทำให้ประหยัดค่าจ้างแรงงาน เป็นเครื่องทุ่นแรงในการขนย้ายมีผลดีต่อสุขภาพพนักงาน และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการขนย้ายสินค้าที่อาจส่งผลให้พนักงานได้รับบาดเจ็บและสินค้าได้รับความเสียหาย จนเกิดการหยุดชะงักในการดำเนินงานส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ รถเข็นนอกจากจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้หลังบ้านของธุรกิจมีความสะดวกสบายและรวดเร็วแล้ว ในส่วนของหน้าบ้านอย่างร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า รถเข็นยังเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่ช่วยดึงให้ลูกค้าใช้เวลานานขึ้นในการจับจ่ายใช้สอยสินค้า และยังช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจด้วยความสะดวกสบายที่ลูกค้าได้รับจากรถเข็นที่ไม่ต้องกังวลในการถือสินค้าที่ต้องการซื้อ เป็นบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งมีผลดีทั้งต่อผู้ผลิตสินค้า ร้านค้า และห้างสรรพสินค้า การเลือกใช้รถเข็นที่มีประสิทธิภาพในการขนย้ายสินค้ามักจะให้ประสิทธิผลที่ดีต่อธุรกิจเสมอ รถเข็นแบรนด์ JUMBO เป็นรถเข็นคุณภาพสูงแบรนด์ไทย ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ที่ได้รับสิทธิพิเศษในการใช้ "Thailand Trust Mark" เป็นการการันตีถึงคุณภาพและมาตรฐาน และมีการส่งออกมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รถเข็น JUMBO มีจำหน่ายรถเข็นหลากหลายประเภท เช่น รถเข็น 4 ล้อ, รถเข็น 2 ล้อ, รถเข็นช้อปปิ้ง, รถเข็นดอลลี่, รถเข็นทรงสูง หรือรถเข็นเฉพาะทาง รถยกถังน้ำมัน, รถเข็นไต่บันได, รถเข็นทางการแพทย์ พร้อมยินดีให้คำปรึกษาและบริการหลังการขาย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
เลือกล้ออุตสาหกรรม ล้อรถเข็น SUPO ให้เหมาะสมแต่ละประเภทอุตสาหกรรม

เลือกล้ออุตสาหกรรม ล้อรถเข็น SUPO ให้เหมาะสมแต่ละประเภทอุตสาหกรรม ล้อรถเข็น SUPO ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในอุตสาหกรรม วัสดุที่ใช้ในการผลิตล้ออุตสาหกรรมมีหลายชนิดเพราะคุณสมบัติของวัสดุมีทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันส่งผลให้มีการนำไปใช้งานในประเภทอุตสาหกรรมที่ต่างกัน การเลือกใช้วัสดุของล้ออุตสาหกรรมที่ไม่เหมาะสมในการใช้งานจะทำให้ประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายลดน้อยลง อาจกลายเป็นอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายทำให้สูญเสียเวลาโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อาจทำธุรกิจเสียหายได้ นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุต่อพนักงานและสินค้าอาจทำให้เกิดความสูญเสียทั้งด้านแรงงานและเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การเลือกใช้วัสดุล้ออุตสาหกรรมจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการนำไปใช้งาน ซึ่งข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้ล้ออุตสาหกรรมให้เหมาะสมกับการใช้ในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ควรพิจารณาความแข็งแรงของวัสดุที่จะรองรับน้ำหนัก, อุณหภูมิของพื้นที่ที่ต้องนำไปใช้งาน, สภาพของพื้นผิว, ความลื่นไหล หรือความสามารถของการลดแรงกระแทก เป็นต้น SUPO แบรนด์ล้ออุตสาหกรรมที่มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 5,000 รายการ ทั้งงานหนัก งานเบา หรืองานเฉพาะทาง เปลี่ยนให้การเคลื่อนย้ายสินค้าหรือสิ่งของเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากกว่าเดิม ทั้งยังทุ่นแรง และปลอดภัยในการใช้งาน ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูงเพื่อมาใช้ในการผลิตที่มีมาตรฐาน จึงมั่นใจได้ในคุณภาพของล้อรถเข็นแบรนด์ SUPO ที่จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจลื่นไหลเหมือนล้ออุตสาหกรรม SUPO แต่หากผู้ประกอบยังไม่รู้ว่าควรเลือกใช้ล้ออุตสาหกรรมแบบไหนเพื่อให้เหมาะสมในการใช้งาน SUPO มีตัวอย่างล้ออุตสาหกรรมที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ มาแนะนำให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถนำล้ออุตสาหกรรมไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ประเภทของวัสดุของล้อรถเข็นที่เหมาะสมในแต่ละอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการเงิน-การธนาคาร ใช้ติดตั้งที่รถเข็นในการขนเงิน และเคลื่อนย้ายเอกสาร ล้อยางจึงเป็นวัสดุล้ออุตสาหกรรมที่เหมาะสมใช้กับรถเข็นในอุตสาหกรรมการเงิน-การธนาคาร เพราะใช้ในอาคารที่มีพื้นที่ราบเรียบ เป็นสถานที่ที่ต้องการความสะอาดซึ่งล้อยางจะไม่ทิ้งรอยล้อไว้บนพื้นอีกทั้งยังไม่มีเสียงดังขณะเคลื่อนที่ ล้อยางสามารถรับน้ำหนักตั้ง 80-120 กิโลกรัม/ลูก ทนทานต่อความเย็น มีความอ่อนนุ่มลดแรงกระแทกได้ดี มีความแข็งแรงและทนทาน ประเภทของล้อที่นิยมติดตั้ง คือ ล้อเป็นเพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ อุตสาหกรรมการบริการสินค้าอุตสาหกรรมหนัก เช่น โรงงานผลิตอะไหล่ยานยนต์หรือชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ผลิตปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ล้ออุตสาหกรรมที่มักนำมาใช้คือ ล้อยูรีเทน PUb เพราะสามารถรองรับน้ำหนักมาก ๆ ได้ ทนต่อสารเคมี ความเป็นกรด-ด่าง และการสึกกร่อน, แข็งแรง, มีความลื่นไหลและนุ่มนวลในการเคลื่อนที่ ไม่มีเสียงรบกวน และไม่ทิ้งรอยขณะเคลื่อนที่ สามารถใช้ได้ในพื้นที่เรียบ ขรุขระ มักมีล้อตายหรือล้อติดเบรคติดตั้งประกอบร่วมด้วยเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและสามารถควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง มักจะเป็นรถเข็นที่ใช้ในไซต์งานก่อสร้าง เช่น รถเข็นปูน ล้อมักจะเป็นล้อยางตันที่ไม่มียางด้านนอกผลิตจากโพลียูรีเทนทั้งล้อ มีความแข็งแรงและทนทานที่จะบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักปริมาณมาก ๆ ได้ ยืดหยุ่นไม่แข็งกระด้าง ไม่ต้องกังวลเรื่องตะปูหรือข้อแหลมที่จะเจาะทะลุยางใช้ได้ทั้งพื้นเรียบ พื้นขรุขระ พื้นหินกรวด ทางลูกรัง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและดูแลรักษาง่าย ส่วนใหญ่มักเป็นล้อเดี่ยวหรือล้อคู่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร เกี่ยวกับการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารและเครื่องดื่ม ที่ต้องการความสะอาดเพื่อให้ถูกสุขอนามัยและยังต้องใช้งานได้ดีทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง ล้อไนลอนPA จึงเป็นล้ออุตสาหกรรมที่เหมาะสมในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร เพราะสามารถใช้งานได้ทุกสภาพผิว เช่น พื้นปูน พื้นยาง พื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นดิน และพื้นที่มีน้ำขังได้ ทนต่อการกัดกร่อนและการเสียดสีสูง ไม่เกิดการยุบตัว ทนทานต่อสารเคมีและอากาศที่เย็นจัด ร้อนจัดได้ ทนต่อการขีดข่วน แรงกระแทก มีน้ำหนักเบา เหนียวและยืดหยุ่นดี รองรับน้ำหนักได้มาก ไม่ทิ้งรอยล้อรถไว้บนพื้น อุตสาหกรรมพลังงาน เช่น โรงกลั่นน้ำมัน แท่นขุดเจาะ หรือก๊าซธรรมชาติ ล้อยูรีเทนเหมาะสมในการใช้งาน เพราะล้อยูรีเทนสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีน้ำมัน จาระบี หรือสารเคมีอื่น ๆ ได้ ยากต่อการฉีกขาดจึงสามารถใช้งานกับพื้นผิวหยาบ ผิวขรุขระ และพื้นที่ที่มีเศษวัสดุแหลมคม หรือจะใช้กับพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นเซรามิก และคอนกรีตก็ได้เช่นกัน ยังสามารถรองรับน้ำหนักได้มาก ซึ่งล้อยูรีเทนมีให้เลือกใช้ได้ 3 ชนิดคือ โพลียูรีเทน, ยูรีเทน PUb, ยูรีเทน PUo แตกต่างกันที่ปริมาณน้ำหนักที่รองรับได้ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ต้องถูกใช้งานในพื้นที่เฉพาะในการหาแร่, ถลุงแร่, อัญมณีต่าง ๆ เป็นรถเข็นที่ต้องขนย้ายแร่ต่าง ๆ มักนิยมใช้ล้อเหล็กเพราะมีความแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน น้ำมัน สารเคมี และแรงกระแทก รองรับงานหนัก ๆ ได้ดีเพราะรับน้ำหนักได้ 80-150 กิโลกรัม สามารถทนความร้อนได้ถึง 280 องศาเซลเซียส ลักษณะพื้นที่เหมาะสมในการใช้งาน เช่น พื้นเรียบ พื้นโลหะเหล็กหรือสังกะสี พื้นขรุขระ ไม่ควรใช้บนพื้นพื้นไม้ พื้นกระเบื้อง พื้นหินอ่อน เพราะอาจทำให้พื้นเกิดรอยและเสียหายได้ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ เป็นรถเข็นที่ใช้ในโรงพยาบาลซึ่งมีรถเข็นหลายชนิดเพื่อบริการผู้ป่วยหรือผู้ที่มาใช้บริการ รวมไปถึงรถเข็นที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ต้องคำนึงถึงความสะอาดเป็นหลักและต้องการความเงียบเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนต่อผู้ป่วย วัสดุของล้อรถเข็นที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นล้อยางและล้อโพลียูรีเทนแต่ยังมีวัสดุอีกชนิดนึงที่นำมาใช้ในการผลิตล้อรถเข็นสำหรับทางการแพทย์คือ ล้อนีโอพรีน ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายล้อยางมีความยืดหยุ่น ทนทานสูงทั้งน้ำมัน น้ำ สารเคมี และทนต่อเปลวไฟ มีเสียงรบกวนต่ำ อุณหภูมิในการใช้งานตั้งแต่ -40 - 140 องศาเซลเซียส อุตสาหกรรมการบริการ เป็นประเภทของรถเข็นที่คุ้นเคย เช่น รถเข็นช้อปปิ้ง, รถขนสัมภาระ, รถเข็นผู้ป่วย, รถเข็นอาหาร รถเข็นอาหารไฟฟ้า เป็นต้น ล้อยางและล้อโพลียูรีเทนเป็นล้อที่นิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมด้านบริการเพราะเป็นรถเข็นที่มีเสียงรบกวนขณะเคลื่อนที่น้อยและไม่ทิ้งรอยล้อบนพื้นซึ่งอาจสร้างความสกปรกให้กับพื้นได้ มีผลต่อความสะอาดของสถานที่ มีความยืดหยุ่นและลื่นไหลได้ดีสร้างความสะดวกในการใช้งานซึ่งสร้างผลดีให้กับธุรกิจการบริการ ล้ออุตสาหกรรมทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมานี้เป็นเพียงบางส่วนของวัสดุล้อรถเข็นชนิดที่มีการนำมาใช้งานยังมีวัสดุล้อรถเข็นอีกหลายชนิดที่ถูกนำมาใช้งานเช่น ล้อโอลีนพรีน, ล้อพลาสติก, ยังมีล้ออุตสาหกรรมเฉพาะทางเพื่อมาตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เช่น ล้อรถเข็นกันชื้น, ล้อรถเข็นกันน้ำ, ล้อรถเข็นทนความร้อน, ล้อรถเข็นป้องกันไฟฟ้าสถิต, ล้อรถเข็นรับน้ำหนักมากพิเศษ เป็นต้น Jestore by Jenbunjerd เป็นตัวแทนจำหน่ายลูกล้อรถเข็นแบรนด์ SUPO ในประเทศไทย แบรนด์ล้อรถเข็นคุณภาพสูงนำเข้าจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปี จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าทุกประเภทที่จำหน่ายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน และยังมีบริการให้คำปรึกษาและบริการหลังการขายจากทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะสามารถเลือกล้อรถเข็นได้ตรงตามความต้องการและการใช้งานต่อธุรกิจของคุณ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
5 เทคนิคการเลือกเก้าอี้สำนักงานอย่างคุ้มค่า นั่งทำงานไม่ปวดหลัง

5 เทคนิคการเลือกเก้าอี้สำนักงานอย่างคุ้มค่า นั่งทำงานไม่ปวดหลัง บอกลาออฟฟิศซินโดรมด้วย 5 เทคนิคการเลือกเก้าอี้สำนักงาน การนั่งทำงานบนเก้าอี้สำนักงานเป็นเวลานานนับ 8 ชั่วโมงต่อวัน ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้หนุ่มสาวชาวออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องประสบกับอาการกล้ามเนื้อหดตัว กล้ามเนื้ออักเสบ หรือกล้ามเนื้อฉีกขาดจากการนั่งทำงานบนเก้าอี้สำนักงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง จนนำไปสู่การเกิดอาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งมักจะเริ่มจากมีอาการปวดเมื่อยตั้งแต่ที่บริเวณคอ ไล่ลงมาจนถึงหลัง บ่า ไหล่ แขน หรือแม้กระทั่งบริเวณข้อมือ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้อาการปวดเมื่อยจากการเป็นออฟฟิศซินโดรมลุกลามและทวีความรุนแรงมากขึ้นจนกลายมาเป็นอาการปวดแบบเรื้อรัง การหมั่นออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กับการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงานด้วยการเลือกใช้งานเก้าอี้สำนักงานที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถรองรับกับสรีระร่างกายของเราได้อย่างเหมาะสม ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเราสำหรับชาวออฟฟิศคนไหนที่กำลังมองหาเก้าอี้สำนักงานมาใช้งาน ลองมาดู 5 เทคนิคการเลือกเก้าอี้สำนักงานอย่างคุ้มค่า เพื่อการนั่งทำงานอย่างไม่ปวดหลังที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้กันได้เลย 5 เทคนิคการเลือกเก้าอี้สำนักงานอย่างคุ้มค่า นั่งทำงานไม่ปวดหลัง เลือกเก้าอี้สำนักงานที่มีพนักพิงปรับเอนได้ เก้าอี้สำนักงานส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมด้วยพนักพิงซึ่งถือเป็นพื้นที่สำคัญที่ถูกออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถรองรับกับแผ่นหลังและสรีระร่างกายของผู้ใช้งานเก้าอี้สำนักงานแต่ละคนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เก้าอี้สำนักงานทุกตัวในท้องตลาดจะมาพร้อมด้วยฟังก์ชันการปรับเอนพนักพิงที่สามารถช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าให้กับผู้ใช้งานเก้าอี้สำนักงานได้ ซึ่งแน่นอนว่าการนั่งทำงานบนเก้าอี้สำนักงานที่ไม่สามารถปรับเอนพนักพิงได้ก็อาจเป็นอีกหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้งานเก้าอี้สำนักงานเกิดความรู้สึกปวดเมื่อยและไม่สบายตัวเช่นเดียวกันกับตอนที่มีการใช้งานเก้าอี้ประเภทอื่น ๆ ในการนั่งทำงาน เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกเก้าอี้สำนักงานให้ตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุดจึงควรเลือกเป็นเก้าอี้สำนักงานที่มีพนักพิงปรับเอนได้ในระดับประมาณ 100 องศา ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เลือกเก้าอี้สำนักงานที่สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ โดยทั่วไปแล้วเก้าอี้สำนักงานที่สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพควรมาพร้อมด้วยฟังก์ชันการปรับระดับความสูง-ต่ำของตัวเก้าอี้สำนักงานได้ตามความต้องการ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับความสูง-ต่ำของเก้าอี้สำนักงานให้มีความเหมาะสมกับสรีระร่างกายของตัวเอง ตลอดจนสามารถนั่งทำงานในท่าทางที่ ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์โดยการวางเท้าให้แนบพอดีกับพื้นและให้ต้นขาขนานกับพื้น เพื่อจุดมุ่งหมายสำคัญในการช่วยให้ช่วงเข่าและช่วงขาเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย แม้จะมีการนั่งอยู่ในท่าทางเดิมติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็ตาม อีกทั้งการนั่งทำงานบนเก้าอี้สำนักงานที่มีระดับความสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมยังสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดไหล่ หรือปวดสะโพกได้ นอกจากนี้เพื่อช่วยให้เก้าอี้สำนักงานสามารถช่วยซัพพอร์ตการนั่งทำงานที่กินระยะเวลามากถึง 6-8 ชั่วโมง ต่อวัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ผู้ใช้งานก็ควรเลือกเก้าอี้สำนักงานที่มาพร้อมด้วยฟังก์ชันเสริมอย่าง ระบบปรับความสูง-ต่ำของบริเวณที่รองคอและเบาะรองหลัง เพื่อช่วยให้เก้าอี้สำนักงานสามารถรองรับกับทุกสรีระของผู้ใช้งานและลดความเสี่ยงของการเกิดอาการออฟฟิศซินโดรมลงได้ เลือกเก้าอี้สำนักงานที่พอดีตัว การเลือกใช้งานเก้าอี้สำนักงานที่มีขนาดใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวออฟฟิศหลาย ๆ คนเผลอนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์โดยไม่รู้ตัว โดยการเลือกนั่งเก้าอี้สำนักงานที่มีขนาดเล็กกว่าตัวอาจส่งผลให้ผู้นั่งเกิดความรู้สึกแน่นและอึดอัด อีกทั้งยังอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งมากกว่าปกติเนื่องจากไม่สามารถขยับตัวเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถได้ตามความต้องการ แต่ในขณะเดียวกันการเลือกนั่งเก้าอี้สำนักงานที่มีขนาดใหญ่เกินไปก็อาจทำให้ผู้นั่งไม่สามารถนั่งหลังชิดกับพนักพิงของเก้าอี้สำนักงานได้ จนเป็นที่มาของอาการปวดที่บริเวณคอ บ่า ไหล่ และช่วงเอว เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกเก้าอี้สำนักงานมาใช้งาน คือการเลือกเก้าอี้สำนักงานที่มีขนาดความกว้างและลึกที่พอดี เพื่อช่วยให้เก้าอี้สำนักงานสามารถรองรับสรีระร่างกายของผู้ใช้งานได้อย่างดีที่สุด เลือกเก้าอี้สำนักงานที่วางแขนสามารถปรับระดับได้ ฟังก์ชันเกี่ยวกับการปรับระดับที่วางแขนของเก้าอี้สำนักงาน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่ผู้ใช้งานหลาย ๆ คนมักจะเผลอมองข้ามความสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ฟังก์ชันการปรับระดับความสูง-ต่ำของที่วางแขนของเก้าอี้สำนักงานถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้ใช้งานแต่ละคนที่มีสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน สามารถทำการปรับที่วางแขนให้รองรับกับสรีระของตัวเองไปพร้อม ๆ กับการช่วยจัดท่าทางในการนั่งทำงานเพื่อให้องศาการวางแขนและข้อศอกอยู่ในระนาบเดียวกันกับโต๊ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นท่าทางการนั่งทำงานที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดข้อมือและแขนเมื่อต้องนั่งทำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ ได้ เลือกเก้าอี้สำนักงานที่มีเบาะที่นั่งที่ยืดหยุ่นและสามารถกระจายน้ำหนักได้ดี ชาวออฟฟิศส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาราว ๆ 6-8 ชั่วโมง ต่อวัน ไปกับการนั่งทำงานอยู่บนเก้าอี้สำนักงาน เพราะฉะนั้นแล้วอีกหนึ่งพื้นที่ที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุด คือบริเวณของเบาะที่นั่งที่รองรับร่างกายและน้ำหนักตัวของเราเอาไว้ตลอดทั้งวัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ววัสดุที่นิยมนำมาใช้ทำเบาะที่นั่งมักจะเป็นโฟมหรือฟองน้ำหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ โฟมที่มีความหนาแน่นสูง หรือ Memory Foam ที่มีคุณสมบัติที่ดีในด้านของความคงตัว ซึ่งจะช่วยทำให้เบาะที่นั่งของเก้าอี้สำนักงานสามารถรองรับน้ำหนักได้มากโดยไม่เกิดการเสียรูปทรงจนส่งผลต่อความสามารถในการช่วยป้องกันการเกิดอาการปวดเมื่อยและชาที่บริเวณก้นและต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ Jenstore by Jenbunjerd เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเก้าอี้สำนักงานคุณภาพสูงแบบครบวงจร ที่มาพร้อมด้วยประสิทธิภาพในการใช้งานเพื่อการช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโครงสร้างและเบาะที่นั่งของเก้าอี้สำนักงานที่ถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ทนทาน และมีมาตรฐานระดับสากล พร้อมการบริการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่การออกแบบ การติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : Website : https://www.jenstore.com (Live Chat) ฝ่ายขาย : 02-096-9999 (200 คู่สาย) Email : [email protected] บริการลูกค้า : 02-096-9898 ext 3102-3103 Email : [email protected] LINE Official Account: @jenstore Facebook : เจนสโตร์ - JenStore by Jenbunjerd

2023-09-25
×
สายด่วนสั่งซื้อสินค้า บริการจัดหาสินค้า สินค้าสั่งทํา 02 096 9999
บริการหลังการขาย 02 096 9898
ต่อ 3102-3103
ไลน์ @jenstore
เวลาทําการ 08.30 - 17.30 น.
Copy to Clipboard